“มาร์ค” เต้นโดนด่า “เรยาการเมือง” ซัดกลับ “แม้ว” ลั่นไม่ยอมให้ใช้ประชาชนเป็นบันได แถมไม่หวั่นหากถูกเช็กบิลภายหลัง
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนเดินทางลงพื้นที่หาเสียงที่ จ.สุโขทัย และ จ.พิษณุโลก ถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่าเป็นเรยาทางการเมืองว่า นายณัฐวุฒิก็ทำได้เท่านี้ เพราะนี่คือการเมืองสร้างสรรค์และการปรองดองของพรรคเพื่อไทยที่ไม่ได้หยุดกล่าวหาใส่ร้ายโจมตีคนอื่น
เมื่อถามถึงกรณีปฏิเสธเรื่องคนเสื้อแดงที่มาป่วนระหว่างการหาเสียงว่าไม่ใช่เสื้อแดงจริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนต้องถามตั้งแต่ต้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนเสื้อแดงเทียมหรือไม่ เพราะวันหนึ่งก็บอกว่าให้ประชาชนออกมาชุมนุมกันให้มาก เมื่อมีเสียงปืนดังเมื่อไหร่จะออกมายืนอยู่แถวหน้า แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นทางสื่อต่างประเทศไปถามว่าจะรับผิดชอบอย่างไร แต่กลับบอกว่าไม่รู้จักเสื้อแดง ตนขอถามนายณัฐวุฒิว่าแล้วอย่างนี้เรียกว่าอะไรทางการเมือง
เมื่อถามว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วางแผนบันได 4 ขั้นในเรื่องการนิรโทษกรรม โดยเริ่มต้นจากคดีทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ากี่ขั้น และก็จะไม่ยอมให้ประชาชนเป็นบันไดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เหยียบและประชาชนต้องไม่ยอมเป็นบันไดให้เหยียบด้วย เพื่อให้ตกบันไดไปตั้งแต่ขั้นแรกด้วยการให้ประชาชนบอกชัด ๆ ว่าบ้านเมืองต้องการที่จะก้าวพ้นความต้องการของคน ๆ เดียว
เมื่อถามต่อว่า ในขั้นสุดท้ายคือหาก พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาแล้วจะเปลี่ยนคำพิพากษาให้เป็นรอลงอาญาแทนการติดคุกนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประชาชนกี่คนที่เวลาทำผิดกฎหมายจะมีโอกาสให้คนมาออกกฎหมายใช้อำนาจลบล้างคำพิพากษา หากทำได้วันข้างหน้าบ้านเมืองก็จะไม่ใช่ 3 ศาลหรือ 1 ศาลการเมือง แต่กลายเป็น 4 ศาล หากว่าคนใดทำผิดมีอำนาจและอิทธิพลเข้ามาเปลี่ยนแปลงได้แล้วจะอยู่กันอย่างไร ในส่วนของการรื้อรัฐธรรมนูญทั้งหมดและให้คนกลางมาร่างนั้น ตนคิดว่ารัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ แต่ต้องตอบโจทย์ให้ชัดว่าการแก้ไขดังกล่าวต้องการแก้ไขในประเด็นไหนและเพื่อใคร ทำไมไม่ได้เดินไปข้างหน้า เราต้องก้าวให้พ้นเรื่องแบบนี้ หากตนได้รับโอกาสเข้าไปบริหารประเทศตนให้โอกาสทุกคน รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย
เมื่อถามว่า กลัวการเช็กบิลภายหลังด้วยการจบชีวิตทางการเมืองในคุกหรือต้องหนีออกต่างประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าคนที่ทำหน้าที่รักษาความสงบให้กับบ้านเมืองโดยไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนจะต้องไปเจอกับการถูกจำคุกหรือต้องหนีไปต่างประเทศ แต่คนที่เอาเปรียบประชาชนและบ้านเมืองต่างหากที่สมควรจะต้องเจอชะตากรรมแบบนั้น ซึ่งตนไม่กลัวเพราะความจริงก็คือความจริง.