ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย
ลงพื้นที่หาเสียงใน จ.เชียงใหม่ อย่างมีสีสันด้วยการนั่งรถซาเล้ง หรือสามล้อพ่วง มีทีมงานขี่จักรยานยนต์นำหน้าเดินหาเสียงที่ตลาดประตูเชียงใหม่ อ.เมือง ท่ามกลางความสนใจของพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนชาวเชียงใหม่ มามุงดูและขอเอกสารการหาเสียงไปศึกษา ทั้งนี้ในระหว่างเดินเข้าไปภายในตลาด ซึ่งมีธงสีแดงและป้ายข้อความเขียนว่า "บ้านนี้สีแดง" ปักอยู่ตลอดสองข้างทาง นายชูวิทย์ ได้ประกาศว่า รู้ว่าชาวเชียงใหม่เลือกเบอร์อะไรแต่ขอให้พ่วงเบอร์ 5 ของตนเองเข้าไปเป็นฝ่ายค้าน เพื่อประโยชน์ของประชาชนด้วย
ระหว่างที่นายชูวิทย์เดินขอคะแนนเสียงอยู่นั้น อีกด้านของตลาดปรากฏว่า น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครเขต 1 จากพรรคเพื่อไทย
ได้เดินเข้ามาหาเสียงพร้อมทีมงานเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่เดินมาเจอกันจึงพูดจาทักทายกันอยู่ครู่หนึ่ง โดยนายชูวิทย์กล่าวว่า คนเชียงใหม่เลือกพรรคนี้ เท่าที่ดูหน้าตาผู้สมัครมีสง่าราศีได้เป็น ส.ส.แน่นอน ทำให้เกิดเสียงหัวเราะดังลั่นตลาด ซึ่งในระหว่างนั้นได้มีชายผมยาวมัดหางเปียสมาชิกคนเสื้อแดงที่เดินตามหลังทีมงานของ น.ส.ทัศนีย์ ได้เข้ามาขอเอกสารหาเสียงของนายชูวิทย์ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเห็นและทักว่าเป็นคนที่ไปตะโกนด่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงเรียนแม่ริม ชายคนดังกล่าวรีบเดินหนีออกไปทันที
นายชูวิทย์กล่าวว่า ตนจะไปทุกที่ สัปดาห์นี้มาเชียงใหม่ คนเชียงใหม่น่ารัก ยิ้มแย้มแจ่มใส จะเลือกใครไม่สำคัญ ดูหน้าบอกเบอร์ 5
แต่ก็รู้ว่าในใจเลือกเบอร์ 1 ตนมาทำหน้าที่ ไม่เห็นมีใครมาทำอะไร เสียดายที่อยู่กรุงเทพฯ ไม่อย่างนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีคู่แข่งแน่ ตนไม่ต้องขอตำรวจคุ้มกัน ไร้สาระ เพราะตนมาอาสาไม่มีใครบังคับให้เข้ามา สัปดาห์หน้าจะไปภาคใต้ เจาะไอร้อง บันนังสตา จ.ปัตตานี ทหาร ตำรวจ ไม่ต้องมาดูแลผมไปได้หมด
"ที่พรรคประชาธิปัตย์มาโดนไล่ เป็นปัญหาของพรรคนี้ เพราะอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ แกไปทำอะไรไว้ ผมเชื่อว่าคนที่ไปไล่เขาไปด้วยใจ เป็นนายกฯ แล้วแก้ปัญหาไม่ได้ ประชาชนเขาก็มีสิทธิท้วงติง แต่ตอนนี้เห็นคุณอภิสิทธิ์ก็เริ่มเข้าใจและเข้าไปพุดคุยกันได้" นายชูวิทย์กล่าว