ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าและผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย พร้อมผู้สมัคร และทีมงาน
ร่วมสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ก่อนเดินทางหาเสียงพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 2-5 มิ.ย.นี้ ภายใต้สโลแกน รักเธอประเทศไทย เดินทาง 10,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ก่อนออกเดินทางนายชูวิทย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ในพื้นที่ภาคเหนือตนจะนำนโยบายขอเป็นฝ่ายค้านเข้ามาทำงานตรวจสอบไปเสนอขายให้กับคนภาคเหนือ ทั้งนี้ยอมรับว่าพื้นที่ภาคเหนือเป็นพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยแต่ตนไม่กลัว และภายหลังกลับมาจากภาคเหนือแล้ว ตนเตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ต่อ อาทิ จังหวัดปัตตานี โดยไม่ต้องขอกำลังตำรวจหรือทหารคุ้มกัน เบื้องต้นตนอาจแวะไปดื่มกาแฟกับนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และแวะจังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์
“ผมไปเหนือครั้งนี้จะนอนโรงแรม ไม่นอนวัด เพราะไม่อยากกวนเจ้าอาวาส และไม่อยากเล่นละคร ทำท่าทางเหมือนใกล้ชิดกับประชาชน ผมเป็นเด็กวัดเทพศิรินทร์ มาก่อน แต่ไปเหนือครั้งนี้จะไปนอนวัด” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวถึงกิจกรรมหาเสียงในพื้นที่กทม. ว่า ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้มีผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาสัมภาษณ์ตนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
และวันเดียวกันตนจะเปลี่ยนป้ายหาเสียงใหม่ โดยเน้นในเรื่องของคำว่าปรองดองของนักการเมือง ซึ่งตนจะทำให้เห็นว่าการปรองดองของนักการเมืองไม่แท้จริง และความรุนแรงไม่ได้มาจากประชาชน นอกจากนั้นจะติดตั้งป้ายหาเสียงภาคภาษาอังกฤษเพิ่มเติม บริเวณถนนสุขุมวิท, สีลม และสาทร รวมถึงหน้ามหาวิทยาลัยทุกแห่งในกทม.และจังหวัดปริมณฑล นอกจากนั้นในวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ค. จะมีปราศรัยใหญ่ที่สวนชูวิทย์ ถนนสุขุมวิท ซอย 10 ตนคาดว่าจะมีผู้เข้าฟังหลักพันคน เนื่องจากสถานที่มีน้อยไม่สามารถรองรับคนฟังหลักหมื่นคนได้ ทั้งนี้จะถ่ายทอดการปราศรัยผ่านทางเวปไซต์ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าอะไรคือการปรองดองที่ไม่แท้จริง นายชูวิทย์ กล่าวว่า
ตัวอย่างเช่น ในสายตาตนมองว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นคนใช้ได้ แต่มีคนคอยบงการอยู่เบื้องหลัง ดังนั้นขอให้จับตาว่าการปรองดองครั้งนี้ผลประโยชน์มาก่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากตนได้เข้าสภา ตนจะขอเป็นฝ่ายค้านตลอดสมัยที่ทำงาน
ถามต่อว่า ขณะนี้ประเมินจำนวนผู้แทนที่จะได้เข้าทำงานในสภากี่คน นายชูวิทย์ กล่าวว่า “ผมได้เบอร์ 5 มาไหว้พ่อ ร.5 คาดว่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 5 คน ส่วนที่มีหมอดูทำนายว่าผมจะไม่ได้ส.ส.เข้าสภาแม้แต่คนเดียว ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะสิ่งที่สำคัญคือวันนี้ผมทำอะไรอยู่”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
