"ปลัดอุตสาหกรรม" ระบุผู้ส่งออกพอใจค่าเงิน 36บาท/ดอลล์ ถือว่าเหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ ขณะที่ "ธปท."มั่นใจค่าเงินบาทนิ่งถึงปลายปี และนักลงทุนคลายความกังวลเงินไหลกลับลงทุนในตลาดหุ้น
´จักรมณฑ์´ แจงค่าเงินที่36บาท ส่งออกแข่งขันได้
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า
การผ่อนปรนมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรค่าเงินบาท ด้วยการยกเลิกมาตรการหักเงินสำรองร้อยละ 30 เฉพาะในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะเป็นการลดความตื่นตระหนกนักลงทุนในตลาดทุนที่มีความอ่อนไหวสูง โดยเห็นว่ามาตรการดังกล่าวควรออกในระยะสั้นเท่านั้น เพื่อป้องกันการไหลของเงิน ทั้งนี้หากตลาดทุนไม่มีปัญหาในการเก็งกำไรที่ส่งผลต่อค่าเงินบาทแข็งค่าแล้ว ก็ไม่ต้องหามาตรการใดๆ มาควบคุม และเรื่องดังกล่าว กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต้องติดตามและหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด
"ผู้ประกอบการส่งออกในขณะนี้ พอใจต่อมาตรการดังกล่าว และเห็นว่าค่าเงินบาทของไทยควรคงที่ระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสม ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถแข่งขันได้" นายจักรมณฑ์ กล่าว
ธปท.คาดค่าเงินบาทนิ่งถึงสิ้นปี
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เผยค่าเงินบาทจากนี้ถึงปลายปีจะไม่ผันผวน เนื่องจากปกติช่วงปลายปีตลาดมีการซื้อขายเบาบาง ช่วงนี้ไปจนถึงปลายปี ความผันผวนของตลาดเงินไม่น่าจะมาก เพราะเป็น ปกติช่วงปลายปีตลาดบางมาก ดังนั้นยังไม่ต้องมีมาตรการรออกมา แต่ติดตามอย่างใกล้ชิด
เขากล่าวอีกว่า หากนักลงทุนต่างชาติมองว่า ธปท.เอาจริงและพร้อมจะใช้มาตรการออกมาตอบโต้ ทำให้กองทุนต่างชาติถอยออกไป ธปท.ก็ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการอะไรเพิ่มเติม
"การออกมาตรการสกัดเก็งกำไรเงินบาทของธปท.เชื่อว่าในต่างประเทศคงจะเข้าใจถึงการดำเนินการออกมาตรการของธปท. เพราะการที่ค่าเงินแข็งขึ้นถึง 14-15% ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ถือเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับได้ "ผู้ว่าการธปท. กล่าว
เงินบาท/ดอลลาร์เมื่อ 13.37 น.อยู่ที่ 35.64/72 หลังวานนี้เงินบาทอ่อนค่าลงไปเกือบระดับ 36.00 ในช่วงสั้นๆ
ต่างชาติคลายความกังวล
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานสมาคมธนาคารไทย ระบุ หลังจากการออกมาประกาศยกเลิกมาตรการยกเว้นเงินสำรอง 30 % ของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวานนี้ จะส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างชาติคลายความวิตกกังวล และกลับมามีความเชื่อมั่นในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกครั้ง ทั้งนี้ เชื่อว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากต่างชาติหวั่นไหว โดยการแก้ไขปัญหาของภาครัฐนั้น ถือได้ว่ามีความรวดเร็ว และปรับตัวได้ทันต่อเหตุการณ์ หลังจากที่มีผลกระทบต่างๆ เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประธานสมาคมธนาคารไทย
ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทางธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ก็ต้องการเร่งแก้ไขปัญหาค่าเงินบาทที่มีผลกระทบเป็นอย่างมากต่อผู้ส่งออกของไทย ดังนั้นจึงต้องหามาตรการต่างๆ มาสกัดกั้น แม้จากมาตรการที่ออกมานั้น จะส่งผลต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง ก็สามารถออกมาแก้ไขได้
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวที่มีคุณภาพจาก
<หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ>