ความขัดแย้งไทย-เขมรถูกหยิบยกเป็นประเด็นหารือสำคัญในที่ประชุมอาเซียน

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า

นักวิเคราะห์เชื่อว่าการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน ซึ่งอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ในการจัดระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคมนี้ คาดว่าประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาจะถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นหลักในการหารือของผู้นำอาเซียนในครั้งนี้
 
ศาสตราจารย์คาร์ล เธเยอร์ จากมหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า
 
ความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชานั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับความน่าเชื่อถือของอาเซียน รวมทั้งเป้าหมายในการก่อตั้งประชาคมอาเซียนให้ได้ภายในปี 2558 ซึ่งความล้มเหลวของอาเซียนในการเป็นตัวกลางแก้ไขปัญหาการเมืองจะส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อความน่าเชื่อถือของอาเซียน แต่ขณะเดียวกันอินโดนีเซียเองสามารถใช้โอกาสนี้ในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจา ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเองก็สามารถกดดันให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาหันมาเจรจาตกลงกันได้ เธเยอร์กล่าวด้วยว่า สิ่งที่อาเซียนทำในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อบทบาทของอาเซียนในการแก้ปัญหาความขัดแย้งในหมู่ชาติสมาชิกในอนาคตต่อไป ขณะที่แหล่งข่าวด้านการทูตผู้หนึ่งเปิดเผยว่า ผู้นำอาเซียนจะเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
 
ด้านนายเออร์เนสต์ โบเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า

ปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาจะบั่นทอนวิสัยทัศน์ของผู้นำอาเซียนที่พยายามจะจัดตั้งประชาคมอาเซียนขึ้นภายในปี 2558 เพราะกรอบของประชาคมอาเซียนที่ต้องการรวมเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเมือง และความมั่นคงของชาติอาเซียนเข้าด้วยกันนั้น ขัดแย้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ยากจะร่วมมือกันทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
 
นอกจากนี้ โบเวอร์ยังกล่าวด้วยว่า เหตุขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชากันยังขัดแย้งกับความหวังของอาเซียนที่ต้องการให้ประเทศในภูมิภาคนี้กลายเป็นแหล่งน่าลงทุนสำหรับต่างชาติ
 
วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซียพบลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิด 6 ลูก ซึ่งเชื่อว่าเตรียมไว้สำหรับก่อเหตุระเบิดพลีชีพ โดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย แถลงว่า ระเบิดที่พบเป็นระเบิดที่เตรียมไว้ใช้สำหรับระเบิดก่อเหตุเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นที่มัสยิดตำรวจเมื่อเดือนที่ผ่านมา และทำให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน โดยระเบิดถูกพบอยู่ในแม่น้ำที่เมืองซีร์บอน เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ไม่กี่วันก่อนหน้าที่จะมีการจัดประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ท่ามกลางมาตรการการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกว่า 6,000 นาย ที่ประจำการตามสถานที่ต่างๆ และเข้มงวดมากขึ้นหลังจากที่โอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัลเคด้าถูกหน่วยคอมมานโดของสหรัฐบุกสังหารที่ปากีสถานเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม จนหวั่นเกรงว่ากลุ่มอัลเคด้าจะออกมาแก้แค้น โดยทางการอินโดนีเซียได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะถูกกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในประเทศโจมตี