‘มาร์ค’สยบข่าวเลื่อนยุบสภา ยันทูลเกล้าฯสัปดาห์นี้ ไม่สนเสียงติง

เมื่อเวลา 15.00น. วันที่ 4 พ.ค.ที่อาคารรัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในการยุบสภา ว่า

  “ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมเคยพูดว่าจะนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ในสัปดาห์แรกของเดือนพ.ค.ก็ยังคิดว่าสามารถที่จะดำเนินการได้อยู่”  เมื่อถามว่าแต่จนถึงวันนี้ตำแหน่งประธานวุฒิสภาก็ยังไม่มีการโปรดเกล้าฯ ลงมา อาจจะมีปัญหาเรื่องคนที่จะรับสนองพระบรมราชโองการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เรื่องการยุบสภา ผมเป็นคนรับสนองฯ ครับ และมันไม่ได้เกิดอะไร เอาเป็นว่าขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่กระทบกับสิ่งที่ได้พูดไว้”

 เมื่อถามว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดวินิจฉัยในวันที่ 9 พ.ค. นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
 
ยังไม่ทราบเพราะเป็นข้อกำหนดภายในของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ไปก้าวล่วงตรงนั้น เมื่อถามย้ำว่าหมายความว่าภายในสัปดาห์นี้ ภายในวันที่ 6 พ.ค. นายกรัฐมนตรีจะนำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นทูลเกล้าฯ ใช่หรือไม่  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่เคยพูดไว้อย่างไรก็ปฏิบัติอย่างนั้น

 เมื่อถามว่าแต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่าการยุบสภาอาจยืดหยุ่นเวลาออกไปได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนก็พูดตามนี้ว่าอย่างที่เคยพูดไว้ก็ปฏิบัติตามที่พูด

 เมื่อถามย้ำว่านายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ก็ระบุว่าควรเลื่อนการยุบสภาออกไปสัก 1 สัปดาห์

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบเลย เดี๋ยวขอตนไปฟังก่อนตอนนี้ยังไม่ทราบว่านายบรรหารได้แนะนำอะไร แต่ตนคิดว่าสิ่งที่ได้พูดเอาไว้ปฏิบัติได้  เมื่อถามว่ามีข่าวว่านายกรัฐมนตรีกำหนดปฏิทินวันเลือกตั้งในวันที่ 26 มิ.ย.โดยหารือกับทาง กกต.แล้วจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คุยกับทาง กกต.

 เมื่อถามว่าตัวร่างพระราชกฤษฎีกาที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯต้องกำหนดวันเลือกตั้งในร่างด้วยใช่หรือไม่
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวยอมรับว่า “ใช่ ครับ”  เมื่อถามว่าถ้ามีการนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้วันเลือกตั้งจะเป็นวันไหน  นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วจะเรียนให้ทราบ เมื่อถามอีกว่าใช่วันที่ 3 ก.ค.หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า ถึงเวลาจะเรียนให้ทราบ

 เมื่อถามถึงผลการประเมินว่าสองพรรคใหญ่จะแข่งขันค่อนข้างรุนแรง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
 
เอาเป็นว่าเข้มข้น แต่อย่าให้รุนแรง และยังคิดว่าจะสามารถดูแลการเลือกตั้งไม่ให้เกิดความรุนแรงได้ ไม่เช่นนั้นเราก็จะเป็นสังคมประชาธิปไตยไม่ได้ ถ้าเราจะเป็นสังคมประชาธิปไตยเราก็ต้องจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย การแข่งขันจะเข้มข้นอย่างไรก็ต้องอยู่ในกรอบ