คตส.ยกคำร้องค้าน กล้านรงค์-สัก สอบหุ้นชิน

คตส.ยกคำร้องค้าน กล้านรงค์-สัก สอบหุ้นชิน

นายแก้วสรร อติโพธิ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 ธันวาคม 2549 20:38 น.

คตส.เบรก หญิงอ้อ-บรรณพจน์ ค้าน สัก-กล้านรงค์ เหตุไม่มีส่วนได้เสีย พร้อมเดินหน้าลุยสอบ จ่อคิวเชือด 6 โครงการ ที่ดินรัชดามาแรง เตรียมลงดาบ 25 ธ.ค.นี้ หลังเสียงแตก

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 13.30 น.มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องคัดค้านการตั้งอนุกรรมการไต่สวน 2 ราย คือ นายสัก กอแสงเรือง และนายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ คตส.ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนการหลบเลี่ยงการจ่ายภาษีจากการซื้อขายหุ้น 738 ล้านบาท ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งถูกอนุกรรมการตรวจสอบระบุข้อกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษี โดย คตส.เปิดโอกาสให้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ในชั้นอนุกรรมการไต่สวน และเพื่อรับทราบความคืบหน้าในโครงการที่ตรวจสอบ ทั้ง 13 โครงการ โดยใช้เวลานานร่วม 4 ชั่วโมง

กระทั่งเวลา 17.30 น.นายสัก กอแสงเรือง และนายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการ คตส.ในฐานะโฆษก คตส.และเลขานุการ คตส.ร่วมแถลง โดย นายสัก กล่าวว่า ที่ประชุมรายงานความคืบหน้าการตรวจสอบหลายโครงการ อาทิ นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์ ซึ่งดูแลเรื่องการซื้อขายหุ้นชิน คอร์ป ว่า คืบหน้าไปมาก แต่ยังไม่สามารถสรุปชี้มูลเพื่อตั้งคระอนุกรรมการไต่สวนได้

ส่วนกรณีธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออก ที่ปล่อยกู้กับรัฐบาลพม่า 4 พันล้านบาทนั้น

นายสัก กล่าวว่า ทางอนุกรรมการตรวจสอบอยู่ระหว่างการเชิญกรรมการผู้จัดการของธนาคารดังกล่าวมาให้ข้อมูล สำหรับกรณีการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา 90 ล้านต้น ของกระทรวงเกษตรฯ มีการรายงานว่า มีรายละเอียดในการกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่เข้าร่วมประมูล ด้านความคืบหน้าในการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 นายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส.ที่ดูแลได้รายงานความคืบหน้า ว่า จะสามารถสรุปผลการตรวจสอบในสัปดาห์เพื่อขอตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป

ด้าน นายแก้วสรร กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติยกคำร้องการขอคัดค้านของคุณหญิงพจมาน และนายบรรณพจน์

ผู้ถุกกล่าวหาว่าหลีกเลี่ยงภาษี โดยไม่ให้ นายสัก และนายกล้านรงค์ ขึ้นเป็นอนุกรรมการไต่สวน โดยอ้างว่า นายสัก เคยเป็น ส.ว.และได้ร่วมลงชื่อกับ 28 ส.ว.ยื่นต่อศาลรัฐะรรมนูญว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยังถือครองหุ้นบรษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น ขณะที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกฯ ตามมาตรา 209 ของรัฐธรรมนูญ จึงถือว่า ไม่เป็นกลาง แต่ที่ประชุมเห็นว่า การกระทำของนายสัก เป็นการทำหน้าที่ขณะที่เป็น ส.ว.ไม่มีอคติโกรธเคืองแต่อย่างใด

นายแก้วสรร กล่าวว่า ส่วนกรณีของ นายกล้านรงค์ ที่ประชุมร่วมพิจารณาอย่างกว้างขวางเพราะนายกล้านรงค์ เป็นอนุ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่า ให้ 5 ข้าราชการกรมสรรพากรมีความผิดกรณีไม่เรียกเก็บภาษีการซื้อขายหุ้นชินวัตรคอมพิวเตอร์แอนด์คอมมูนิเคชั่น ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า นายกล้านรงค์ได้ปฏิบัติหน้าที่ และไม่ถือว่า เป็นความโกรธเคืองส่วนตัว และไม่มีส่วนได้เสียในเรื่องนี้

นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้ร้องระบุว่า นายกล้านรงค์ เคยวินิจฉัยการซุกหุ้นภาค 1 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาแล้ว

ซึ่งถ้าเทียบกับระเบียบของศาลยุติธรรมที่กำหนดว่า ผู้ที่เคยวินิจฉัยในคดีที่เกี่ยวข้องมาก่อนไม่ควรร่วมเป็นองค์คณะพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องอีก แต่การทำงานของ คตส.เป็นเพียงขั้นตอนการไต่สวนหาความจริง ไม่ใช่กระบวนการในชั้นศาล ซึ่งเมื่อ คตส.สอบสวนเสร็จแล้วก็ต้องส่งเรื่องให้มีการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลต่อไป ที่สำคัญระเบียบของ คตส.ระบุชัดว่า การยื่นคำร้องคัดค้านไม่มีกรณีที่กรรมการ เคยตัดสินในคดีใดแล้วจะมาเป็นกรรมการอีกไม่ได้ ส่วนการขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้น ก็ไม่ใช่สาเหตุของการโกรธเคืองกัน ที่ประชุมจึงยกคำร้องดังกล่าวและให้อนุกรรมการไต่สวนดำเนินการต่อ โดยจะส่งรมติของ คตส. ให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ต่อไป

นายแก้วสรร กล่าวอีกว่า ที่ประชุม คตส.ได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบคดีเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตที่เกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม

โดยมีตน และนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส.เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ โดยมีคณะทำงานจาก สตง.2 ท่าน ที่ทำงานตรวจสอบสำนักโทรคมนาคม รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกฤษฎีกาที่มีความรู้ด้านกฎหมายปกครองและเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพากรอีก 1 ท่านเข้าร่วม ซึ่งจะเริ่มทำงานตรวจสอบทันที

นายแก้วสรร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการทำงานของอนุกรรมการตรวจสอบ ว่า ขณะนี้มี 6 โครงการ ที่ใกล้จะปิดสำนวนการตรวจสอบแล้ว โดยคดีการซื้อที่ดินของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ขณะนี้คณะอนุกรรมการตรวจสอบได้สรุปความเห็นเสนอต่อที่ประชุม คตส.แล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณา และมีอีก 2 เรื่อง ที่อยู่ระหว่างการเขียนความเห็น ส่วนอีก 3 เรื่องเหลือเพียงการสอบพยานสำคัญอีก 2-3 ปาก ก็สามารถสรุปความเห็นได้ โดยโครงการแอร์พอร์ต ลิงก์ เหลือพยานเพียง 2 ปากเท่านั้น

ด้าน นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส.ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อที่ดินย่านรัชดา กล่าวว่า

ตนได้สรุปสำนวนต่อที่ประชุมแล้ว แต่ไม่สามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ เพราะกรรมการ คตส.ยังมีความเห็นแตกเป็น 2 ทาง คือ การจะตั้งเป็นคณะอนุกรรมการไต่สวนได้ จะต้องมีหน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย และกองทุนฟื้นฟูมาร้องทุกข์กล่าวโทษก่อน หรือไม่ต้องมีหน่วยงานที่เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษก็สามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ แต่ในที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้ จึงได้ให้กรรมการ คตส.กลับไปพิจารณาอีกครั้ง และจะนำเข้าสู่การพิจารณา คตส.ในวันที่ 25 ธ.ค.ซึ่งหากยังตกลงไม่ได้ อาจจำเป็นต้องโหวตโดยใช้มติเสียข้างมาก คือ 6 เสียงขึ้นไป เพราะประเด็นนี้ มีข้อถกเถียงเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งอาจมีผลต่อการต่อสู้ในชั้นศาลของผู้ถูกกล่าวหาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ 6 โครงการที่ใกล้จะปิดสำนวน และตั้งอนุกรรมไต่สวนได้ประกอบด้วย

1.กรณีการซื้อที่ดินย่านรัชดาของคุณหญิง พจมาน ชินวัตร 2.การตรวจสอบโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 3.โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ ซึ่งคาดว่าทั้ง 3 โครงการนี้จะมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ 4.การซื้อขายหุ้นบริษัท ชินคอร์ป 5.โครงการท่อร้อยสายไฟฟ้าในสนามบินสุวรรณภูมิ และ 6.โครงการจัดซื้อพันธุ์กล้ายางพารา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์