พระบรมฯทรงย้ำคัดเลือก สสร.ให้สุจริตยุติธรรม

สายเกษตรขู่แต่งดำต่อรองมีชัยยืดเวลาตัดงบประชานิยมอื้อ


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงเปิดประชุมสมาชิกสมัชชาแห่งชาติย้ำให้ทุกคนเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญอย่างสุจริตยุติธรรม สมาชิกฯ ให้จับตาดูคะแนนชี้บล็อกโหวตคะแนนมาเป็นกลุ่ม สายเกษตรกรเตรียมต่อรอง "มีชัย" ยืดเวลาคัดเลือกออกไปก่อน ขู่ไม่ทำตามจะแต่งดำประท้วง ขณะที่ปชป. แนะเลือกสภาร่างรัฐธรรมนูญหลากหลายอาชีพ เน้นคนเก่งมีความสามารถ ที่สำคัญ รธน. ต้องปฏิบัติได้จริงไม่ใช่แค่คำสวยหรูที่เขียนขึ้นมาเอาใจ เห็นด้วยให้นายกฯ อยู่ในตำแหน่งแค่ 2 สมัย พร้อมเตือนอย่าชี้นำและต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วม ส่วน "มาร์ค" เสนอรัฐบาล คมช.แก้โจทย์ 4 ข้อก่อนปัญหาลุกลาม ขณะที่ ทรท.โต้ "สนธิ" ป้ายสี "แม้ว" หวังสร้างความชอบธรรมให้ คมช. เหน็บใครกันแน่ควรถูกลงโทษ ด้าน กมธ.งบฯ แย้มตัดไปแล้ว 1.9 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นโครงการประชา นิยม

เรียกประชุมสมัชชาแห่งชาติ


เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ได้มีประกาศเรียกประชุมสมัชชาแห่งชาติ พ.ศ. 2549 โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า โดยที่มีการแต่งตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 แล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เรียกประชุมสมัชชาแห่งชาติในวันที่ 17 ธ.ค. พ.ศ. 2549 ประกาศ ณ วันที่ 16 ธ.ค. 2549 เป็นปีที่ 61 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

ขณะเดียวกันที่หอประชุมกองทัพเรือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวน 1,982 คนได้เดินทางมาลงทะเบียน อย่างไรก็ตาม สมาชิกส่วนหนึ่งได้นำแผ่นพับแนะนำตัวมาแจกจ่ายให้สมาชิกด้วย นอกจากนี้สมาชิกสมัชชาฯ ได้มาต่อแถวยาวเหยียด เพื่อขอเบิกค่าป่วยการ โดยแบ่งเป็นค่าป่วยการคนละ 5,000 บาท ค่าที่พักคนละ 1,000 บาท ขณะที่บางกลุ่มได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระแสข่าวบล็อกโหวต

รับสั่งให้ทำหน้าที่อย่างสุจริต


จากนั้นเวลา 17.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จทรงเปิดประชุม พร้อมมีพระบรมราโชวาทว่า พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ทำพิธีเปิดประชุมสมัชชาแห่งชาติในวันนี้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2549 ได้บัญญัติวัตถุประสงค์ในการตั้งสมาชิกสมัชชาแห่งชาติและหน้าที่ของสมัชชาแห่งชาติเป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วกัน ในการประชุมครั้งนี้สมาชิกสมัชชาแห่งชาติจะต้องทำหน้าที่โดยสุจริตยุติธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรม นูญที่จะทำหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอันจะได้ประกาศใช้เป็นหลักในการปกครองบ้านเมืองสืบไป ข้าพเจ้าจึงขอให้ทุกฝ่ายที่มาประชุมในที่นี้ได้ระลึกตระหนักถึงภาระอันยิ่งใหญ่ดังกล่าว และตั้งเจตนาอันแน่วแน่ที่จะใช้วิจารณญาณ อันรอบคอบสุขุมและความบริสุทธิ์ในการร่วมคัดเลือก ผู้ที่สมควรได้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้นนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. ได้จัดให้เริ่มมีการประชุม ชี้แจงการออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้สมควรเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งเรื่องการแสดงตน การรับบัตรลงคะแนน การเข้าประชุม การตั้งคณะกรรมการตรวจนับคะแนน การประกาศผลคะแนน และการแจ้งชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกไปยังประธาน คมช. ทั้งนี้การประชุมเพื่อลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมควรเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจะมีขึ้นในวันที่ 18 ธ.ค. เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมกองทัพเรือ

ให้จับตาคะแนนเกาะกลุ่ม


นายการุณ ใสงาม สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายมีชัยกรณีบอกว่าไม่เคยได้ยินกระแสข่าวการบล็อกโหวตและไม่ทราบการบล็อกโหวตทำกันอย่างไรว่า ตนอยากถามว่าทำไมนายมีชัยมีปัญญาแค่นี้หรือ ตนเบื่อที่จะพูดแล้วว่าการบล็อกโหวตทำกันอย่างไร ซึ่งกระบวนการที่ชั่วร้ายที่สุดคือการซื้อเสียง นายมีชัยจะเอาหลักฐานไม่มีใครเขาเอามาให้หรอก เพราะโจรย่อมไม่แสดงสิ่งที่เป็นพยานหลักฐานให้จับได้

"กระบวนการได้มาซึ่งสมัชชามันผิดพลาด ตั้งแต่ต้น เหมือนติดกระดุมเม็ดที่หนึ่งผิด เม็ดที่สองแทนที่จะแก้แต่ติดผิดตามเม็ดที่หนึ่งอีก แบบนี้เม็ดที่สามที่สี่ไม่ต้องพูดถึง กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญแม้แต่การแต่งตั้งคณะกรรมาธิการก็เชื่อได้เลยว่าไม่เป็นไปด้วยความสุจริตใจ ผมท้าเลยว่าพรุ่งนี้คะแนนที่ออกมาจะได้จับกันเป็นกลุ่มเป็นทีม โดยคะแนนศูนย์และบัตรเสียจะมีมากเป็นพิเศษ คะแนนไขว้กันจะมากเป็นจำนวนพิเศษ ความเสียหายจะเกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แน่นอน" นายการุณกล่าว

ต่อรองไม่ได้แต่งดำประท้วง


ด้านนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ กล่าวว่า ตนได้ยินข่าวมาว่ามีพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่งกำลังหว่านเงินซื้อเสียง เพื่อจะให้สมาชิกสมัชชาของตนเข้าไปในตำแหน่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พอมีข่าวแบบนี้ออกมาก็ทำให้ภาพลักษณ์ของสมาชิกสมัชชา เสียหาย จึงอยากวอนเพื่อนสมาชิกสมัชชาฯ ทุกคนว่าให้เลือกคนที่ดีมาทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองแท้จริง

นายรณชิต ทุ่มโมง สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ สาขาเกษตรกร กล่าวถึงการที่นายมีชัยเปิดโอกาสให้มีการเลือกข้ามกลุ่มได้ว่า เป็นการปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ตนคิดว่าการเร่งเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดปัญหา ตามมา การร่างระเบียบออกมาเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความคิดเผด็จการของนายมีชัยที่ต้องการกุมอำนาจเบ็ดเสร็จไว้แต่เพียงผู้เดียว เป็นการร่าง ระเบียบโดยยืนอยู่บนพื้นฐานของเผด็จการ ทางที่ดี นายมีชัยควรจะชะลอการคัดเลือกสมาชิกสภาร่าง รัฐธรรมนูญเอาไว้ก่อน ควรที่จะให้สมาชิกทั้ง 1,982 คนได้หารือกัน 1-2 วัน เพื่อทำความรู้จักกันและกัน จากนั้นค่อยคัดเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 20 ธ.ค. ซึ่งตนจะนำข้อเสนอนี้เข้ายื่นต่อนายมีชัยหากได้รับการปฏิเสธก็จะแต่งชุดดำประท้วง ขณะนี้มีเพื่อน ๆ ที่เห็นด้วย 70 คนแล้ว


"มีชัย"ไม่สนยันหมดเวลาแล้ว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดความวุ่นวายขึ้นในห้องประชุม เมื่อสมาชิกจำนวนหนึ่งต้องการลุกขึ้นอภิปราย เพื่อขอความกระจ่างในกระแสข่าวบล็อกโหวต และการออกระเบียบในการเลือกสมาชิกฯ เลือกข้ามกลุ่ม แต่มีชัยได้ปิดไมค์พร้อมกล่าวเตือนว่า ขั้นตอนต่าง ๆ ได้ตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่มีการอภิปราย หากใครมีข้อสงสัยให้ส่งคำถามขึ้นมา ทุกคนมาเพื่อเลือก สสร. 200 คน เมื่อเลือกเสร็จแล้วจะไปจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ในห้องประชุมจะต้องทำตามขั้นตอน ส่วนที่ใครจะมาล็อบบี้ให้เลื่อน การลงคะแนนออกไปเป็นไปไม่ได้ เพราะขณะนี้นับหนึ่งแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะมาพูดเรื่องนี้

ภายหลังการประชุมนายมีชัยให้สัมภาษณ์ว่า การที่ไม่เปิดโอกาสให้อภิปรายและรีบปิดประชุม เนื่องจากคำถามส่วนใหญ่เป็นคำถามที่ซ้ำกัน ผู้สื่อข่าวถามว่าการลงคะแนนเหตุใดจึงไม่ออกระเบียบให้เลือกในสัดส่วนเดียวกัน นายมีชัยกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญบังคับให้มีการเลือกโดยรวม หากตนฝ่าฝืนก็เท่ากับขัดรัฐธรรมนูญ ตนเชื่อว่า การเลือก สสร. ครั้งนี้จะได้ตัวแทนที่หลากหลาย หากมีการกระจุกตัว คมช.ก็จะหยิบสัดส่วนที่หายไปเข้ามาเพิ่ม

ปชป.แนะให้เลือกคนเก่ง


ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้าม ไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ขอเรียกร้องให้สมาชิกสมัชชาแห่งชาติใช้วิจารณญาณไตร่ตรองอย่างรอบคอบในการคัดเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยควรพิจารณาผู้ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ พื้นฐานควรเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในหลากหลายสาขาอาชีพทั้งรัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ หรือเทคโนแครต ที่เข้ามาดูแลเทคนิคในการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ที่กำลังจะยกร่างเป็นผลพวงมาจากบุคคลทางการเมืองที่ทำให้เกิดปัญหา โดยใช้ช่องว่างและช่องโหว่ของรัฐธรรมนูญมาเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและพวกพ้องโดยมิชอบ

นายองอาจกล่าวต่อว่า สิ่งที่อยากให้คำนึงถึงในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มี 3 ข้อ คือ 1. ควรกำหนดกระบวนการทางการเมืองให้สะอาด บริสุทธิ์ โปร่งใส สุจริต เที่ยงธรรมมากที่สุด 2. ควรคำนึงสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ให้มีการละเมิด ทั้งทางตรงและทางอ้อม 3.ควรคำนึงกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐธรรมนูญปี 40 การมีส่วนร่วมไม่สามารถทำได้ เพราะผู้มีอำนาจในบ้านเมืองพยายามปิดกั้นกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนจึงไม่ได้รับการตอบสนอง

ต้องการ รธน.ที่ปฏิบัติได้จริง


"ผมไม่อยากเห็นรัฐธรรมนูญใหม่เป็นเพียงถ้อยคำที่ดูดีสวยหรูสละสลวย โดยใส่ทุกสิ่งทุกอย่างลงไปให้สังคมพอใจ แต่ไม่สามารถปฏิบัติได้เหมือนรัฐธรรมนูญหลายฉบับที่ผ่านมา ดังนั้นขอเรียกร้องไปยังผู้ร่างรัฐธรรมนูญว่า ข้อความใดที่ปรากฏในรัฐธรรมนูญจะต้องปฏิบัติได้จริง เพราะถ้าปฏิบัติไม่ได้ก็จะทำให้เกิดปัญหาเดิม ๆ" นาย องอาจกล่าว

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานประธาน คมช.อยากให้นายกรัฐ มนตรีอยู่ในตำแหน่งเพียง 2 สมัย และ ส.ว. มาจากการแต่งตั้ง นายองอาจกล่าวว่า เป็นความเห็นของคน ๆ หนึ่ง แต่ พล.อ.สนธิต้องไม่แสดงความเห็นที่ไปแทรกแซงหรือชี้นำการทำงาน เพราะ จะเป็นอันตรายต่อ พล.อ.สนธิ และ คมช. ซึ่งพล.อ.สนธิคงมองออกว่าการชี้นำจะเป็นอันตรายมากกว่าประโยชน์


เห็นด้วยนายกฯ 2 สมัย


ต่อข้อถามที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับกรณีที่ให้นายกฯ อยู่ในตำแหน่ง 2 สมัยหรือไม่ นายองอาจกล่าวว่า กรณีนี้เป็นแนวทางที่พรรค ยึดถืออยู่แล้ว เพราะในข้อบังคับพรรคกำหนดไว้ชัดเจน ว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นได้แค่ 2 สมัย หากร่างรัฐธรรมนูญออกมาในแนวทางนี้พรรคพร้อมสนับสนุน ส่วนที่มาของ ส.ว. ยังมีความ เห็นที่หลากหลายอยู่ ทั้งให้มาจากการเลือกตั้งและแต่ตั้ง หรือผสมผสานกันทั้ง 2 อย่าง ซึ่งทั้ง 3 แนวทางมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นอยากให้ชี้ให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสีย โดยนำผลการศึกษาวิจัยมาสนับสนุนก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีการใด

นายองอาจยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 19 ธ.ค. จะครบ 3 เดือนที่มีการยึดอำนาจ แต่ที่ผ่านมาพบว่าหลายเรื่องยังไม่ลงตัว เกิดช่องว่างมาก ระหว่าง คมช.รัฐบาล และ สนช. เกินกว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่ 3 ฝ่ายมีต้นกำเนิดเดียวกัน แต่หลายกรณีกลับมีเป้าหมายเฉพาะตนมากกว่าเป้าหมายหลัก ทำให้พันธกิจและการปฏิบัติไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันจนเกิดความขัดแย้งระหว่างตัวองค์กร และตัวบุคคล แต่โชคดีที่นายกฯ และรัฐ มนตรีมีต้นทุนทางสังคมสูง ประชาชนยังมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาประเทศ ชาติต่อไป ดังนั้นเพื่อให้เกิดความลงตัวมากขึ้นตน ขอให้ทั้ง 3 ฝ่ายสร้างเอกภาพ มีเป้าหมายและ พันธกิจเดียวกัน คือ แก้ไขปัญหาของประเทศชาติให้เกิดผลตามที่ทุกฝ่ายอยากจะให้เป็น


"มาร์ค"จี้รัฐบาลเร่งแก้โจทย์


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนบทความเรื่อง "รัฐบาล/คมช. กับประเด็นร้อนก่อนปีใหม่" ลงใน www.abhisit. org ว่า ที่ผ่านมา คมช. และรัฐบาลจะคลี่คลายบางปัญหาไปได้ เช่น หวยบนดิน การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. แต่ยังคงมีประเด็นร้อนเกิดขึ้นมาทุก สัปดาห์ และต้องบริหารจัดการโดยเร่งด่วน ก่อน ที่ปัญหาจะสะสมข้ามปีและลุกลามต่อไป

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า โจทย์สำคัญที่รอการแก้ไขโดยเร่งด่วนจากรัฐบาลและ คมช. เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่ปี 50 ด้วยความมั่นใจและราบรื่นมีดังนี้ 1.กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ หากมีลักษณะโยนหินถามทางเป็นระยะ ๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน มีการใช้รัฐธรรมนูญ สืบทอดอำนาจ โอกาสที่จะเกิดความวุ่นวายและความขัดแย้งจะมีสูงมาก ดังนั้น คมช.และรัฐบาลควรประกาศจุดยืนว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่เป็นประชาธิปไตยน้อยกว่าฉบับปี 40 โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพ และนายกฯ ที่ต้องผ่านกระบวน การเลือกตั้ง เพื่อตัดประเด็นการสืบทอดอำนาจ


ระวังถูกเปรียบกับรัฐบาลก่อน


นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า 2.ปัญหา พ.ต.ท. ทักษิณ คดียุบพรรค การเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณมีความจำเป็นจะต้องเป็นพยาน เพราะเป็นหัวหน้าพรรค และมีสิทธิที่จะกลับประเทศไทย แต่ระเบียบของตุลาการรัฐธรรมนูญได้เปิดช่องให้มีการสืบพยานโดยใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ได้ หาก คมช.หรือรัฐบาลเห็นว่า การกลับมาเป็นพยานจะก่อให้เกิดปัญหาความมั่นคง อัยการก็ควรร้องขอให้ตุลาการรัฐธรรมนูญพิจารณาใช้ระเบียบข้อนี้ นอกจากนี้คำสั่ง คปค. ที่ห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจการใด ๆ ควรยกเลิกโดยเร็ว

นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า 3.ปัญหาไอทีวี คดีทุจริต และการนิรโทษกรรม การฟื้นฟูประชาธิปไตยจะต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เพื่อยืน ยันความเป็นนิติรัฐ และต้องมีความชัดเจนให้ผู้กระทำการต้องรับผิดชอบ 4.ปัญหาเศรษฐกิจและนโยบาย เสถียรภาพทางการเมืองมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสภาวะเศรษฐกิจ การแก้ไขปัญหาของประชาชนรัฐบาลนี้จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาลก่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงควรเร่งรัดและให้คำตอบในเรื่องต่าง ๆ นอกจากนี้รัฐบาลต้องแสดงความชัดเจนเรื่องงบประมาณ โดยเฉพาะกองทัพที่ได้รับงบฯเพิ่มในสัดส่วนที่สูงมากกว่า 30%


หั่นงบโครงการประชานิยม


นายอรรคพล สรสุชาติ สนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เปิดเผยว่า ได้พิจารณางบฯ ทุกกระทรวงและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแล้ว กมธ.ได้ปรับลดแล้ว 1,900 ล้านกว่าบาท บางกระทรวงต้องนำกลับไปพิจารณาใหม่เนื่องจากเป็นโครงการประชานิยม ซึ่ง กมธ. อยากให้ยกเลิก เพราะเป็นการใช้จ่ายเกินความจำเป็น เมื่อได้ยอดสรุปแล้ว จะประสานไปยังรัฐบาลว่าต้องการแปรญัตติเพิ่มเติมหรือไม่ ในวันที่ 18 ธ.ค. จะเปิดโอกาสให้ สนช. ที่เสนอขอแปรญัตติเข้าชี้แจงคำแปรญัตติ คาดว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จและเสนอเข้าสู่การประชุมของ สนช. ได้ในวันที่ 27 ธ.ค.

นายอรรคพลกล่าวต่อว่า กมธ. จะตั้งข้อสังเกตแนบท้าย พ.ร.บ.เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำงบฯในปี 51 ว่างบฯ หลายส่วนที่คล้ายคลึงกันแต่กระจัดกระจายในหลายกระทรวง เป็นเบี้ยหัวแตกไม่เกิดประโยชน์ไม่มีความชัดเจน ไม่มีความ จำเป็นจึงควรปรับเปลี่ยนยกเลิกและปฏิรูปกันใหม่


ทรท.เหน็บ"บัง"ป้ายสี"แม้ว"

พล.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร


ด้านว่าที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง ฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ. สนธิกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณว่าไม่มีจริยธรรม เป็นเด็กเลี้ยงแกะและชอบกลับคำพูดตลอดเวลาว่า แล้วแต่ว่าใครจะมอง ในความคิดของตนนั้นคิดว่า คมช. พยายามสร้างความชอบธรรมในสิ่งที่ดำเนินการไปแล้ว

พรรคโดนกล่าวหาในความผิดฐานพยายามแสวงหาอำนาจในการปกครองโดยวิธีที่ มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขอถามว่าพรรคโดนกล่าวหาว่ากระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญปี 40 ที่เปรียบเสมือนการโดนกล่าวหาว่าปีนเข้าบ้านคนอื่นเพื่อขโมยของ แต่ คมช. ได้กระทำการรัฐประหารและฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งไป มันเปรียบเสมือนการเผาบ้าน เมื่อเป็นแบบนี้สังคมควรจะพิจารณาเอาเองว่าใครผิดและควรโดนลงโทษ อย่างไร

"วันนี้ คมช.มีอำนาจและได้กล่าวหาคนอื่นและ พ.ต.ท.ทักษิณด้วยข้อหาที่รุนแรงมาโดยตลอด พรรคก็ไม่ได้ตอบโต้ แต่ขอให้คิดสักนิดว่าการพูดแบบนั้นมันสร้างความสมานฉันท์หรือไม่ ประชาชนไม่ได้โง่และไม่ได้กินแกลบ จึงเชื่อว่าประชาชนย่อมคิดได้เองในสิ่งที่เกิดขึ้น" ว่าที่ ร.ท. กุเทพกล่าวโต้

เตรียมยื่น กกต.ขอเคลื่อนไหว


ว่าที่ ร.ท.กุเทพยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคจะไปยื่นหนังสือถึง กกต. ในวันที่ 19 ธ.ค. เพื่อสอบถามความชัดเจนในการจัดประชุมพรรคว่า จะมีแนวทางใดให้พรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้บ้าง ตอนนี้พรรคต้องการให้มีการประชุมพรรคเพื่อให้มีการเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และจะสอบถาม กกต.ในเรื่องที่มีคำสั่งที่จำกัดสิทธิองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางเรื่องด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวมันขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพทางการเมืองและขัดรัฐธรรมนูญ

นางสดศรี สัตยธรรม กกต.กล่าวถึงกรณีพรรคไทยรักไทยจะขอเข้าพบ กกต.เพื่อขอให้พิจารณาเสนอต่อ คมช. ให้ผ่อนคลายระเบียบ คปค.ฉบับที่ 27 ว่า ขณะนี้ได้รับการประสานจากพรรคไทยรักไทยมาแล้ว แต่จดหมายที่ทำมาไม่ได้ระบุว่าต้องการหารือเรื่องอะไร หากจะหารือเกี่ยวกับการผ่อนปรนประกาศของ คปค.คงต้องหารือกับ คมช. ก่อน แต่คิดว่าเมื่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่อนคลาย คมช. คงจะให้โอกาสพรรคการ เมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ อย่างไรก็ดีเรื่องนี้จะต้องมีการซาวเสียงในระหว่างพรรคการเมืองด้วยว่าแต่ละพรรคมีความเห็นอย่างไร สำหรับ กกต. จะทำตามกฎหมายไม่ทำอะไรที่นอกเหนือกว่ากรอบกฎหมายมีอยู่


พัลลภ"แย้มอย่าเพิ่งกลับ


พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตที่ปรึกษา รมว. กลาโหม กล่าวถึงกรณีการขอกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ควรกลับประเทศในตอนนี้ เพราะจะทำให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ได้วางฐานมวลชนไว้เป็นจำนวนมาก การกลับมาจะก่อให้เกิดความรุนแรง เนื่องจากจะมีแรงสนับสนุนและแรงต่อต้านจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติได้เมื่อการเลือกตั้งเกิดขึ้น และมีรัฐบาลถาวรที่มาจากการเลือกตั้ง

ส่วนที่ท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่าย 19 กันยาต้านรัฐประหารได้เปิดปราศรัยโจมตีการทำงานของ คมช. ที่ผ่านมา โดยมีแกนนำซึ่งเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ขึ้นไปพูดบนเวที ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังกว่า 300 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม กระจายกำลังป้องกันเหตุอยู่ประมาณ 30 นาย

"แอ้ด" สัญญาทำงานซื่อสัตย์


ค่ำวันเดียวกันที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มาร่วมงาน "น้ำเงินและขาว พลังแห่งเกียรติยศ" พร้อมกล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า ช่วงที่ตนอยู่โรงเรียนนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดในวัยเด็ก เพราะได้รับการปลูกฝังให้มีระเบียบวินัยรักความถูกต้องและการทำความดี มีจริยธรรมคุณธรรมซึ่งตนยึดเป็นพื้นฐานในการทำงานและดำเนินชีวิต วันนี้ตนมารับผิดชอบบริหารประเทศขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตยึดมั่นคุณธรรมความดีงามเพื่อให้ประเทศเจริญก้าวหน้าสังคมไทยมีความสมานฉันท์.

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์