สุเทพอ้าง ครม.ร่วมใจถอนเจบีซี ปัดเสียรังวัดให้พันธมิตร ยัน กมธ.ฝั่งไทยเดินหน้าต่อได้

เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่สนามบินดอนเมือง ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติถอนบันทึกรายงานผลการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) 3 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภาว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีการปรึกษากันเรื่องดังกล่าวและได้ถามความเห็นจากเลขาธิการคณะกรรมการ กฤษฎีกา และรัฐมนตรีต่างๆ ทุกคนเห็นว่าข้อความในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแสดงให้เห็นชัดว่ากระบวนการในการไปทำงานร่วมกันของคณะกรรมาธิการเขตแดนทางฝั่งไทยยังไม่มีสิ้นสุดครบถ้วนถึงขั้นที่จะต้องนำมาเสนอให้รัฐสภาให้คำรับรอง เพราะรัฐสภาได้ให้กรอบในการไปทำงานอยู่แล้ว และงานยังไม่เสร็จ จึงต้องไปเจรจากันให้เสร็จเรียบร้อยก่อน ถึงวันนั้นจะได้ทราบว่ามันจะกระทบต่อเขตแดนของประเทศไทยจุดใดบ้าง และจึงจะนำมาเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภาภายหลัง โดยทั้งหมดเป็นการตีความจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น เมื่อทุกคนเห็นด้วยส่วนใหญ่ ดังนี้ จึงมีมติร่วมกันให้ถอนเรื่องออกจากรัฐสภา

เมื่อถามว่า ไม่ถือว่าเป็นการผิดขั้นตอนตามระเบียบหรือสัญญาระหว่างประเทศใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ถือว่าผิด การปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จะต้องนำเรื่องเหล่านี้เข้าที่ประชุมรัฐสภา ยังมีข้อสงสัยอยู่ตลอดเวลาว่าเรื่องใดควรเสนอและไม่ควรเสนอ เพราะกฎหมายยังไม่ชัด ฉะนั้น การตีความต่างฝ่ายต่างคิดไปต่างๆ นานา แต่พอศาลรัฐธรรมนูญที่ถือว่าเชี่ยวชาญที่สุดแล้ว เมื่ออ่านโดยละเอียดแล้วสามารถเข้าใจได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญยังเห็นว่าไม่ใช่ขั้นตอนที่จะต้องนำมาเสนอต่อรัฐสภา

เมื่อถามว่า รัฐบาลถือว่าเสียรังวัดให้กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะเป็นคนละอย่างกับที่กลุ่มพันธมิตรพูด พันธมิตรพูดไว้ว่าจะผิดกฎหมาย เมื่อถามว่า การพิจารณารายงานผลการบันทึกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ล่าช้าออกไปจะส่งผลกระทบต่อประเทศกัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า การที่ไทยถอนบันทึกรายงานผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ออกมา หมายความว่าการทำงานของคณะกรรมาธิการจากฝั่งไทยยังเดินหน้าต่อไปได้ และสามารถไปประชุมกับกัมพูชาได้ตลอดจนเสร็จงาน และถึงตอนนั้นเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจึงนำมาเสนอต่อรัฐสภา

เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องชี้แจงขั้นตอนทางกฎหมายของไทยให้กับทางกัมพูชาเข้าใจหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศสามารถที่จะไปอธิบายขั้นตอนเหล่านี้ให้กับทางกัมพูชาหรืออาเซียน ตลอดจนสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในวันข้างหน้าว่าไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคสำหรับการเจรจาในระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชา เพราะในอดีตหากไปประชุมร่วมกันมาหนึ่งครั้ง จะต้องกลับมาขออนุมัติรัฐสภาครั้งหนึ่ง แต่ต่อไปนี้สามารถประชุมต่อเนื่องได้เลย