อดีตขรก.มหาดไทยแนะรัฐถวายพระราชอำนาจคืนในหลวง

อดีตขรก.มหาดไทยแนะรัฐถวายพระราชอำนาจคืนในหลวง

อดีตข้าราชการมหาดไทยภาคใต้จี้รัฐถวายพระราชอำนาจคืนในหลวง เสนอให้ทุกฝ่ายพบกันครึ่งทาง ด้านกลุ่มพันธมิตรแสดงจุดยืนยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯสงขลา กดดัน "ทักษิณ" ลาออก นักศึกษา ม.วลัยลักษณ์ ออกโรงแฉ ทรท.ปลุกม็อบคนจนต่อต้านกลุ่มกู้ชาติ แกนนำสุราษฎร์ฯ หวั่นไม่ปลอดภัยระงับส่งคนร่วมชุมนุม ขอเปิดเวทีไฮด์ปาร์คในพื้นที่แทน

-------------------------------------------------------
ทันทีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศยุบสภา และทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีอยู่นั้น สร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ ประชาธิปไตย จนเกิดการรวมตัวกลุ่มคนจากทั่วประเทศเข้ามากดดันให้ลาออกและสถานการณ์ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่าครึ่งเดือน กระทั่งมีการกำหนดวันชุมนุมใหญ่เพื่อเคลื่อนกำลังพลไปยังทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 14 มีนาคมอีกครั้งนั้น


พันธมิตรสงขลายก 5 ปัญหาขับทักษิณ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 มีนาคม กลุ่มพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตย สงขลา จำนวน 500 คน เคลื่อนขบวนโดยรถจักรยานยนต์ รถโดยสารขนาดเล็กและรถยนต์ส่วนตัวจากสถานีรถไฟ อ.หาดใหญ่ มุ่งหน้าไปยังศาลากลางจังหวัดสงขลา พร้อมโบกธงชาติและธงสีส้ม เขียนข้อความขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก

ทันทีที่เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดสงขลา กลุ่มพันธมิตรกู้ชาติกู้ประชาธิปไตย สงขลา ได้ตั้งขบวนเดินเข้าไปภายใน พร้อมกับร่วมชุมนุมบริเวณหน้าศาลากลาง จากนั้นอ่านจดหมายเปิดผนึก ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ จากพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตย สงขลา เรื่องขอให้ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี มีข้อความสรุปถึงกระแสการเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่ท่านนายกฯ บอกปัดข้อเสนอ โดยอ้างว่าจะรักษากติกาประชาธิปไตยเท่าชีวิต ดังนั้นพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตย สงขลา ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ทำลายกติกาประชาธิปไตยเสียเอง ตลอดระยะ 5 ปีที่ผ่านมา

ประการแรก คือ โครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย ที่มีการร่วมทุนกันทั้งสองฝ่าย ผลประโยชน์ตกอยู่ที่ประเทศมาเลเซียเกือบทั้งหมดและเอื้อประโยชน์ให้แก่คนใกล้ชิดในรัฐบาล ส่วนผลกระทบตกอยู่กับประชาชนในพื้นที่

ประการที่สอง ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างความแตกแยกให้แก่คนไทยด้วยกัน โดยไม่เข้าใจในปัญหา ประการที่สาม กรณีขายหุ้น 7.3 หมื่นล้านบาทของชินคอร์ป การซุกหุ้นภาค 2 การหลีกเลี่ยงภาษี การนำสิทธิประโยชน์ด้านความมั่นคงของคนไทยทั้งชาติไปขายให้ต่างชาติ

ประการที่ 4 ขาดความชอบธรรมที่จะเป็นผู้นำประเทศ จึงร่วมกันเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งและเปิดโอกาสให้มีการปฏิรูปการเมือง และประการที่ 5 ได้ทำสัญญาเอฟทีเอกับต่างประเทศโดยไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่าง เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจของตัวเอง แต่คนไทยกลับเดือดร้อน ฉะนั้นกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตย สงขลา จึงเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

หลังจากนั้นนายประยงค์ รัตนพันธ์ รองผู้ว่าฯ สงขลา ออกมารับจดหมายดังกล่าว เพื่อนำส่งต่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ตามวัตถุประสงค์ของกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ หลังจากนั้นทั้งหมดเคลื่อนขบวนออกจากศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อแจกจ่ายจดหมายเปิดผนึกแก่ประชาชนในเขตเทศบาลนครสงขลาและเดินทางกลับไป อ.หาดใหญ่ ต่อไป

ม็อบท่อก๊าซเคลื่อนไหวร่วมขับ"ทักษิณ"

นางสุไรดะห์ โต๊ะหลี เครือข่ายกลุ่มคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย กล่าวว่า ม็อบท่อก๊าซจาก อ.จะนะ ตัดสินใจเดินทางมาร่วมสมทบกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในครั้งนี้ เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มเห็นว่ากลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตย มีทัศนคติเหมือนกับสมาชิกในกลุ่มที่มองว่า การบริหารรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขาดความโปร่งใสและขาดความชอบธรรม

นางสุไรดะห์ กล่าวอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก่อเหตุและทำกรรมกับกลุ่มคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซไว้มาก โดยเฉพาะในช่วงเวลากว่า 8 ปี แห่งการต่อต้านในช่วงที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ มีความดื้อดึงด้วยการสั่งเดินหน้าโครงการดังกล่าว ทั้งๆ ที่ราษฎรในพื้นที่เองไม่ต้องการและพยายามต่อสู้มาโดยตลอด ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้แสดงให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่น้อมรับความคิดเห็นจากชาวบ้านในพื้นที่เลย ประกอบกับไม่เปิดทำประชาพิจารณ์ที่สมบูรณ์แบบ แต่จะใช้อำนาจผู้ว่าฯ ซีอีโอในการตัดสินปัญหาแทนทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ท้ายที่สุดแล้วผลประโยชน์ทุกอย่างจะตกเป็นของกลุ่มนายทุนทั้งสิ้น

ยัวะนำที่ดินวากัฟขายต่างชาติ

"สิ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่รับไม่ได้มากที่สุดคือ การโกงที่ดินวากัฟ ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์แต่รัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับนำไปขายให้แก่กลุ่มนายทุนชาวต่างชาติ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านยังใช้ประโยชน์อยู่ และมองว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวเปรียบเสมือนว่าการนำเอาสมบัติของประเทศไปขายให้แก่ชาวต่างชาติถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาแห่งความเสียสละของม็อบท่อก๊าซที่ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติ กู้ประชาธิปไตยที่ต้องการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งให้เร็วที่สุด" เครือข่ายกลุ่มคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซและโรงแยกก๊าซไทย-มาเลเซีย กล่าว

หวั่นหนังสือ ยิกทักษิณ ไม่ถึงมือ

นายสนิท ชาวบ้าน จ.สงขลา ที่ร่วมเดินทางยื่นหนังสือขับไล่นายกฯ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หลังจากเข้ายื่นหนังสือขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้ลาออกจากตำแหน่ง มีนายประยงค์ รัตนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนรับหนังสือดังกล่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดสงขลา นั้น กลุ่มผู้ชุมนุมเกรงว่าหนังสือดังกล่าวจะไม่ถึงมือ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากประชาชนไม่สามารถไปตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการของระบบราชการได้ ทั้งนี้อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตระหนักความสำคัญของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยด้วย


รองผู้ว่าฯ ยันหนังสือถึงมือแน่

ขณะที่นายประยงค์ รัตนพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า หลังรับหนังสือจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแล้ว ได้จัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนการทำหนังสือรายงานและส่งสำเนาจดหมายเปิดผนึกที่ได้รับจากกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติฯ สงขลาไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าคงจะถึงมือรักษาการนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

ในฐานะที่เป็นสื่อกลางระหว่างภาคประชาชนและรัฐบาล จึงประสานงานและส่งหนังสือไปยังสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย แต่ในส่วนที่หนังสือดังกล่าวจะถึงหรือไม่ถึงมือของรักษาการนายกรัฐมนตรีนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับส่วนสำนักนายกรัฐมนตรีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เชื่อว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ขอให้กลุ่มพันธมิตรเชื่อมั่นในการดำเนินการของจังหวัดว่าส่งหนังสือตามที่เรียกร้องมาตามกระบวนการทุกอย่างที่ถูกต้องแล้ว นายประยงค์ กล่าว


อดีตขรก.ใต้ตั้งกลุ่มจี้รัฐถวายคืนพระราชอำนาจ

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน มีการออกแถลงการณ์ของกลุ่มข้าราชการบำนาญกระทรวงมหาดไทยจังหวัดสงขลา ณ โรงแรมนีโอ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วยการแนะแนวทางการแก้ปัญหาประเทศชาติ โดยการขอให้ฝ่ายรัฐบาลถวายพระราชอำนาจคืนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งการหันหน้าเจรจาและพบกันครึ่งทางของฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และฝ่ายเครือข่ายพันธมิตร

นายวิสุทธิ์ สิงห์ขจรวรกุล อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทยและประธานกลุ่มข้าราชการบำนาญกระทรวงมหาดไทยจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวในวันนี้ เพื่อเป็นการแนะแนวทางการแก้ปัญหาของประเทศชาติให้กับฝ่ายรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติทางยุทธศาสตร์ ที่สำคัญเพื่อกระบวนการได้มาซึ่งข้อเท็จจริงให้แก่ประชาชนทราบถึงการบริหารประเทศของฝ่ายรัฐบาล อันจะนำไปสู่ความสันติสุขในสังคม โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม องค์กร และพรรคการเมืองใด

"ในฐานะที่เป็นข้าราชการอาวุโสที่ต้องการทำประโยชน์ให้แก่สังคม เนื่องจากทนเห็นประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์บ้านเมืองที่กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติในขณะนี้ไม่ได้ จึงรวมตัวกันกว่า 10 คน ออกมาแถลงการณ์เพื่อชี้แนะแนวทางการแก้ปัญหาประเทศชาติให้กับฝ่ายรัฐบาล เพื่อหาข้อยุติต่างๆ อีกทั้งการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญไม่อยากเห็นการแก้ปัญหาของประเทศชาติเป็นไปในลักษณะที่รุนแรง" นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ยอมรับอีกว่า มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ปักหลักประท้วงที่ท้องสนามหลวงนั้น เกรงว่าอาจจะมีการปะทะกันขึ้น เนื่องจากส่วนหนึ่งยังให้การสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้ขอยืนยันว่าการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรหรือพรรคการเมืองใด


แนะรัฐเปิดกว้างให้ฝ่ายค้านตรวจสอบ

ด้าน ร.ต.วิจิตร สุระกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีและสมาชิกกลุ่มข้าราชการบำนาญกระทรวงมหาดไทยจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การที่ประเทศชาติอยู่ในภาวะวิกฤติเช่นนี้ เกิดจากการไปคัดลอกรัฐธรรมนูญของประเทศฝรั่งเศสมาใช้ จึงเกิดความสับสนทางการเมือง อีกทั้งการขาดคุณธรรมจริยธรรมของฝ่ายรัฐบาลในการบริหารประเทศ จึงอยากให้ฝ่ายรัฐบาลแสดงความจริงใจและความบริสุทธิ์ในการเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบดังที่มีการเรียกร้องอยู่ในขณะนี้ และอยากจะให้ทุกฝ่ายได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หันหน้าเจรจากันเพื่อหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

"ขั้นตอนการแก้ปัญหาประเทศชาติที่สำคัญที่สุดคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นก่อนจะมีการเลือกตั้ง เนื่องจากหากมีการเลือกตั้งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ก็ถือว่าปัญหาของประเทศชาติยังไม่ได้แก้ อีกทั้งเป็นการสูญเปล่าในงบประมาณแผ่นดินที่ใช้ในการเลือกตั้งนับพันล้านบาท จึงอยากจะฝากให้รัฐบาลทบทวนกระบวนการแก้ปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่าถูกแล้วหรือ รวมทั้งหากถึงทางตันขอให้รัฐบาลถวายคืนพระราชอำนาจแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งวิธีการนี้เชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติ" ร.ต.วิจิตร กล่าว


แฉ ทรท.ปลุกม็อบคนจนต้านพันธมิตร

น.ส.ยุภาวรรณ ดำรงพิพัฒน์ อุปนายกบริหารองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มีการแถลงการณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนการชุมนุมใหญ่ของประชาชนในวันที่ 13-14 มีนาคม นี้ เป็นไปตามที่ประชาชนในทุกวงการ ผู้อาวุโสที่เป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปเรียกร้องอย่างต่อเนื่องและจริงจังให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นที่ทราบกันแล้วนั้น แต่ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ยอมลาออก แต่ยังกระทำในสิ่งที่ผู้ปกครองบ้านเมืองไม่ควรกระทำอย่างยิ่งคือ การปลุกระดมคนที่ไม่รู้ข่าวสารข้อมูลและมีฐานะยากจนขึ้นมาต่อต้านประชาชนกลุ่มที่ขับไล่ ถึงขั้นมีสมาชิกพรรคไทยรักไทยสนับสนุนให้ประชาชนกลุ่มนี้ลุกขึ้นมาจัดตั้งกองกำลังอิสระเพื่อจัดการฝ่ายตรงข้าม ภายใต้ข้ออ้างว่าปกป้องรัฐธรรมนูญ

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เห็นว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นนี้ กำลังนำพาประเทศไปสู่ความพินาศอย่างที่ไม่มีจอมเผด็จการคนใดของไทยทำได้มาก่อน เพราะการสร้างให้ประชาชนแตกแยกคือ การทำลายความเป็นปึกแผ่นของสังคม และก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างคนไทย ซึ่งกำลังนำไปสู่ความรุนแรงในที่สุด ทั้งนี้เป็นไปเพื่อรักษาอำนาจและผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียวเท่านั้น น.ส.ยุภาวรรณ กล่าว


ตั้งความหวัง14มี.ค.ทักษิณยอมอ่อน

น.ส.ยุภาวรรณ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ของชาวนครศรีธรรมราช คือ 1.ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดการสร้างความแตกแยกให้คนในชาติเสียแต่บัดนี้ เพราะเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวกดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ไม่มีปัญหาใดกับประชาชนไทยด้วยกันเอง หากการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ นำไปสู่ความรุนแรง พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะไม่เพียงต้องลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น แต่รวมไปถึงไม่สามารถอยู่บนแผ่นดินไทยได้อีกต่อไปด้วย

2.การเคลื่อนขบวนครั้งใหญ่ของประชาชน ณ ท้องสนามหลวง ในวันที่ 14 มีนาคม นี้ เป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญซึ่งหวังว่าจะสามารถกดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งได้ เพราะขณะนี้การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอยู่ในตำแหน่งแม้เพียงวันเดียวก็นับว่าสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติอย่างมหาศาลแล้ว

ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนร่วมสนับสนุนการเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างจริงจังด้วย ใครมีความพร้อมขอให้ไปร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม เพื่อจะร่วมเดินขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลวันที่ 14 มีนาคม และหากใครไม่มีความพร้อมก็ขอให้มาร่วมชุมนุมกันที่ศาลาประดู่หก สนามหน้าเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อร่วมกันติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดและร่วมสำแดงพลังเพื่อกดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากตำแหน่งร่วมกับพี่น้องประชาชนที่ชุมนุมกันที่กรุงเทพมหานคร

"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเรียกร้องจะมีส่วนเข้าไปกระตุ้นเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีโดยด่วน และหวังว่าประชาชนชาวนครศรีธรรมราชจะร่วมกันสู้อย่างเข้มแข็งจนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะลาออกจากตำแหน่ง" น.ส.ยุภาวรรณ กล่าว


สุราษฎร์ฯเมินเข้ากรุงหวั่นไม่ปลอดภัย

ขณะที่ นายปวีณ จุลภักดี แกนนำนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานโครงการป่าทะเลเพื่อชีวิต จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การเคลื่อนไหวเข้าร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร ในตอนนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของประชาชน ซึ่งมีบ้างที่จะเดินทางไปเป็นการส่วนตัว แต่จะไม่รวมตัวกันไป เพราะหวาดหวั่นเรื่องความปลอดภัย

อย่างไรก็ตามในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่องอยู่แล้ว มีการเปิดเวทีไฮด์ปาร์คเช่นเดิม คือ ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ลาออก ไม่ใช่ยุบสภา ที่ผ่านมาใช้เผด็จการทางการเมืองและแสดงถึงความไม่โปร่งใสในหลายๆ เรื่อง ทำให้ประชาชนรับไม่ได้ จึงลุกขึ้นมาเรียกร้องดังกล่าว และเป็นการแฉพฤติกรรมที่ไม่โปร่งใสภายใต้การบริหารงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้บรรดาแกนนำนักศึกษาและกลุ่มเอ็นจีโอประชุมเพื่อจะไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพมหานคร แต่เมื่อมีการทวงถามถึงความรับผิดชอบเกี่ยวกับความปลอดภัย ไม่มีใครสามารถยืนยันรับประกันความปลอดภัยได้มติที่ประชุมจึงไม่ร่วมเดินทางไป เว้นแต่ใครจะไปให้ไปเป็นการส่วนตัวและรับผิดชอบตัวเอง

ขณะที่บริเวณป้อมนริศ ลานอเนกประสงค์ ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี เขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี มีการเปิดเวทีไฮด์ปาร์คทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.30 น.เป็นต้นไปพร้อมกับเปิดจอมอนิเตอร์ให้ประชาชนรับฟังข่าวการเคลื่อนไหวและการปราศรัยที่กรุงเทพมหานครผ่านทางเคเบิลทีวีให้ประชาชนใน จ.สุราษฎร์ธานี รับทราบทุกวัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์