ปลาไหล-ภท.จับขั้ว ชงแก้กม.ลูก 3 วาระ
"ปลาไหล-ภูมิใจไทย" ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรหลังเลือกตั้งแล้วแจง 14 มี.ค. ผู้ใหญ่ 2 ฝ่ายนัดหารือ-กินเลี้ยงชื่นมื่น ขณะที่ “ปชป.” เมินทำสัญญา “พรรคร่วม” ตั้งรัฐนาวาสมัยหน้า ส่วนวันยุบสภารอ “มาร์ค” ถก “กกต.” วันพรุ่งนี้รู้คำตอบสุดท้าย แบะท่าชงสภาแก้ “กฎหมายลูก” 3 วาระรวดตามข้อเสนอ “เจ๊สด” เรียกร้อง ฟาก “เจ๊สด” บ่นอุบนายกฯ เจียดเวลาให้น้อยไป เล็งให้ “กกต.” เตรียมแผนสำรองไว้ด้วย ขณะที่มติ “วิป” 2 ขั้วเพิ่มวันซักฟอกอีก 1 วัน ด้าน “เพื่อแม้ว” ปูดประเด็นใหม่ถล่ม “ขุนคลัง” แบะท่ารับเงินบริษัทต่างชาติ แถมไล่บี้ “กลต.” สางปมอินไซเดอร์ฟันแมงเม่าหลายพันล้าน ส่วน “เหลิม” ฟุ้งคดีเลี่ยงภาษีบุหรี่ดีกรีน็อกรัฐนาวาได้ ส่วน “ป.ป.ช.” ขยับถอดถอน “มาร์ค-8 รมต.” แล้ว
“เจ๊สด”พ้อ“มาร์ค”เจียดเวลา
เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต. เปิดเผยภายหลังการประชุม กกต. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับแล้ว และให้แต่ละคนนำกลับไปศึกษาก่อนนำมาพิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้าว่าจะส่งร่างทั้ง 3 ฉบับไปให้ ครม. และรัฐสภาเมื่อใด ยืนยันว่า กกต. อยากให้ร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาภายหลัง และไม่ใช่ว่ากกต. อยากให้การยุบสภาเลื่อนออกไป นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่า กกต. ควรเตรียมออกประกาศไว้ด้วย เพราะหากมีการยุบสภาเกิดขึ้นจะได้สามารถประกาศใช้ได้ทันที สำหรับ กกต. ยืนยันว่ามีความพร้อมจัดการเลือกตั้งอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับนายกฯ จะพร้อมยุบสภาเมื่อใด
กกต.รายนี้ กล่าวด้วยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประสานว่าจะมาร่วมรับประทานอาหารกับ กกต. ในวันที่ 11 มี.ค. เพียง 1 ชั่วโมง ทำให้เวลาหารือคงจะน้อย และคงจะได้อะไรไม่มาก เนื่องจากเป็นเวลาที่สั้นมาก “นายกฯ เป็นคนกำหนดเวลา ส่วน กกต. มีเวลาตลอด 24 ชั่วโมง แต่คิดว่านายกฯ ติดภารกิจอื่นจึงมีเวลาให้ กกต. เพียงชั่วโมงเดียว”
ชี้ร้องยุบพรรค“อย่าดีแต่พูด”
ส่วนที่นายกฯ จะนำเรื่องกลุ่มบุคคลสร้างความปั่นป่วนโดยมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังขึ้นมาหารือว่าจะนำไปสู่การยุบพรรคการ เมืองนั้น นางสดศรี กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีสิทธิยื่นคำร้องให้ กกต. ดำเนินการตามกฎหมาย แต่ต้องทำเรื่องร้องเรียนมาเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่พูดเฉย ๆ สำหรับกรณีเลขาธิการ กกต. ลาออกไปสมัครเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) จะไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง เพราะยังมีรองเลขาธิการอีก 5 คนทำหน้าที่อยู่
ขณะที่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิ การ กกต. เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ประสานมาแล้วว่าจะเข้าหารือกับ กกต. ในวันที่ 11 มี.ค. เวลา 12.00 น. ที่ชั้น 9 สำนักงาน กกต. ในส่วน กกต. จะนำเสนอเรื่องความพร้อมและแผนงานเลือกตั้ง การแบ่งเขตเลือกตั้ง รวมทั้งข้อห่วงใยเกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. ด้วย
แบะท่า3วาระรวดคลอดก.ม.
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากพูดคุยกับ กกต. ในวันที่ 11 มี.ค. นี้จะสามารถประกาศได้ว่าจะยุบสภาเมื่อใด ส่วนที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ระบุว่าจำเป็นต้องแก้กฎหมายลูกเพื่อรองรับการเลือกตั้งนั้น เข้าใจว่าการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญได้เขียนค่อนข้างชัดเจนว่า ถ้าหากจะมีการเลือกตั้งแล้ว กกต. สามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง หรือหากจำเป็นต้องพิจารณา 3 วาระรวดตนก็จะหารือคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ต่อไป อย่างไรก็ดีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด และการยุบสภาเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ หากมีการยุบสภาเกิดขึ้นทุกอย่างต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นกฎหมายใดที่ยังมีอยู่และไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญก็ใช้ไม่ได้โดยปริยาย ทั้งนี้ตนเห็นใจคนทำงานที่อาจวิตกกังวลว่าถ้าทำอะไรไปแล้วจะมีปัญหาข้อกฎหมาย ซึ่งตนจะไปรับทราบข้อกังวลเหล่านี้และจะนำกลับมาพิจารณาว่ามีอะไรที่รัฐบาลสามารถทำเพื่อคลายข้อกังวลเหล่านั้นได้
“มาร์ค-เทือก”เดินหน้าเต็มสูบ
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ยังมีบางส่วนที่พยายามเคลื่อนไหวบอกว่าการเลือกตั้งไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ แต่ไม่มีคำตอบว่าถ้าไม่ยึดตามกระบวนการของรัฐธรรมนูญแล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าได้อย่างไร อาจจะเป็นความไม่พึงพอใจตัวนักการเมืองหรือพรรคการ เมือง ตนเข้าใจดีว่าอาจจะยังมีคนที่ไม่ถูกใจ แต่ถ้าเชื่อในระบอบประชาธิปไตยก็ต้องเดินหน้า เพราะทั่วโลกพิสูจน์แล้วว่าถ้าประชาธิปไตยถอยหลังมีแต่จะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา “คนที่ขัดขวางการเลือกตั้งนั้น หากใครทำถือว่าผิดกฎหมาย ผมต้องขอเตือนว่าหากมีพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการเหล่านี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และมีความผิดเข้าข่ายถูกยุบพรรคด้วยซ้ำ และผมจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับ กกต. ในวันที่ 11 มี.ค. นี้ด้วย”
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ขอให้ช่วยกันพูดหรือตักเตือนกลุ่มต่าง ๆ ให้พร้อมใจกันให้โอกาสประเทศชาติและทุกฝ่าย ไปจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อยแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ ต่อข้อถามว่า หากสถานการณ์บังคับให้รัฐบาลอยู่ครบเทอมจะทำอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่ใช่หรอกครับ” เมื่อถามย้ำว่า อุปสรรคที่จะยับยั้งไม่ให้มีการยุบสภานำไปสู่การเลือกตั้งหมดไปแล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า มีเรื่องสถานการณ์ หากช่วยคลี่คลายก็จะเรียบร้อย
ปัดจับขั้วพรรคร่วมล่วงหน้า
นายสุเทพ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงยอดเงินบริจาคในงานระดมทุน 65 ปีว่า ยังไม่ได้รวมบัญชี ต้องรออีก 2-3 วัน เพราะได้มีการเพิ่มโต๊ะอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์เตรียมการพร้อมสำหรับการเลือกตั้งแล้วใช่หรือไม่ นายสุเทพ ยอมรับว่า ตนในฐานะเลขาธิการพรรค และเพื่อน ๆ ได้ช่วยกันทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมและเตรียมการทุกอย่างสำหรับการเลือกตั้ง ถือเป็นการแสดงเจตนาให้ทุกฝ่ายได้เห็นกันชัดเจนว่านายกฯ ส่งสัญญาณเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งจริง ๆ ส่วนเลือกตั้งแล้วจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน
ส่วนที่นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ออกมาแนะนำให้นายกฯไปอ่านวรรณคดีไทยเรื่องศรีธนญชัย เพราะไม่ยอมพูดเรื่องการเลือกตั้งให้ชัดเจนนั้น เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็น อ้างว่าไม่ทราบว่านายประจักษ์หมายความว่าอย่างไร เมื่อถามว่า จะมีเอ็มโอยูกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ หัวเราะพร้อมตอบว่า ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ
“ชทพ.-ภท.”ลั่นเป็นพันธมิตร
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีในส่วนของพรรคภูมิใจไทยว่า ส่วนตัวพร้อมเสมอ แต่หากฝ่ายค้านนำข้อมูลเอกสารหลักฐานที่เป็นเท็จมาอภิปรายพรรคจะประท้วงทันที ส่วนที่มีกระแสข่าวการยุบสภาช่วงเดือน เม.ย. นั้น เห็นว่าเวลาไหนก็เหมาะ อย่างไรก็ตามนายกฯ ยังไม่ได้ถามมา แต่ถ้านายกฯ คิดจะยุบสภาเมื่อใด พรรคก็พร้อม
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล แกนนำพรรคภูมิใจไทย แจ้งให้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ไปร่วมรับประทานอาหารกับ ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ในวันที่ 14 มี.ค. ที่โรงแรมสยามซิตี โดยพร้อมเพรียงกันว่า เป็นความประสงค์ของผู้ใหญ่ทั้ง 2 พรรค เพราะที่ผ่านมาทำงานร่วมกันด้วยดีมาตลอด ดังนั้นในช่วงใกล้หมดวาระสภา และกำลังจะมีการเลือกตั้งใหม่ จึงคิดว่าน่าจะมีการแสดงจุดยืนและทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อแสดงความสามัคคีระหว่างสมาชิก แกนนำ และบุคคลสำคัญของทั้ง 2 พรรค
ฟุ้งโปรโมชั่นแพ็กคู่ตั้งรัฐนาวา
โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวอีกว่า นอกจากการร่วมรับประทานอาหารกลางวันแล้วยังไม่ทราบว่าจะมีการประกาศจุดยืนอะไรด้วยหรือไม่ แต่คิดว่าผู้ใหญ่ทั้ง 2 พรรคคงจะมีการคุยกัน เพราะทั้ง 2 พรรคไม่ได้จับมือทางการเมืองเฉพาะในช่วงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐ บาลเท่านั้น แต่จะยาวไปถึงการทำงานทางการเมืองในอนาคตหลังการเลือกตั้งด้วย
เมื่อถามว่า นอกจากทั้ง 2 พรรคแล้วยังมีพรรคการเมืองอื่นที่จะแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันหรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าเป็นการพบปะสังสรรค์กันของ 2 พรรค ส่วนพรรคอื่นยังไม่แน่ใจ เมื่อถามว่า เป็นเพราะพรรคภูมิใจไทยกลัวถูกโดดเดี่ยวหรือกลัวการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองหรือไม่ นายวัชระ กล่าวว่า ไม่น่าจะใช่ เพราะทั้ง 2 พรรคทำกิจกรรมร่วมกันมาตลอด ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายนิรโทษกรรม รวมทั้งเรื่องการปรองดอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีการประกาศพันธมิตรทางการเมืองร่วมกัน
วิป 2 ฝ่ายขยายวัน“ซักฟอก”
เช้าวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานวิปรัฐบาล ได้เรียกประชุมวิปรัฐบาลกรณีวิปฝ่ายค้านเรียกร้องขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลจำนวน 4 วันตามข้อตกลงเดิม ซึ่งที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติไม่ขัดข้องกับข้อเสนอของฝ่ายค้าน จากนั้นในช่วงบ่ายวิปทั้ง 2 ฝ่ายได้หารือร่วมกัน โดยนายวิทยา แถลงว่า ที่ประชุมวิป 2 ฝ่ายเห็นชอบกรอบเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจจำนวน 4 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 15-18 มี.ค. และลงมติวันที่ 19 มี.ค. แบ่งเป็นวันที่ 15-16 มี.ค. ใช้เวลาอภิปรายวันละ 17 ชั่วโมง ส่วนวันที่ 17 มี.ค. ใช้เวลา 18 ชั่วโมง และวันที่ 18 มี.ค. ใช้เวลา 14 ชั่วโมงและต้องเลิกก่อนเวลา 23.00 น. วิปจะทำหนังสือแจ้งผลการหารือให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเพิ่มจำนวนวันอภิปรายอีกครั้ง ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคลิปวิดีโอและหลักฐานที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ยังไม่มีการหารือ แต่ได้นัดหารือเรื่องนี้ในวันที่ 10 มี.ค. นี้
“เหลิม”โอ่ภาษีบุหรี่หมัดน็อก
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 10 มี.ค. จะตั้งกระทู้ถามสดเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ตอบเรื่องปัญหาการนำเงินไปลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ นำเงินไปทำธุรกิจในประเทศต่าง ๆ โดยไม่ผ่านการเห็นชอบของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งตนจะได้อธิบายความผิดที่เกิดขึ้น และเรื่องนี้ตนมีข้อมูลเชิงลึกที่จะใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นถอดถอนนายกฯ ในประเด็นแทรกแซงคดีบริษัทต่างชาติเลี่ยงภาษีบุหรี่ว่า ตนมีข้อมูลเรื่องนี้ในเชิงลึกที่จะโยงให้เห็นความเกี่ยวพันของคนในรัฐบาลที่ได้รับผลประโยชน์ เชื่อมั่นว่าเรื่องนี้ถือเป็นหมัดน็อกรัฐบาลได้ อย่างไรก็ดีตนจะไม่ขออภิปรายเรื่องนี้ แต่หากผู้ใหญ่มาขอร้องให้ตนอภิปรายเรื่องนี้ตนก็ยินดี
“เพื่อแม้ว”แฉปมอินไซเดอร์
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมช. คลัง ในฐานะคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า มีผู้บริหารบริษัท รวมถึงเจ้าของบริษัทหลายแห่งมาบ่นให้ตนฟังว่า ถูกบังคับให้บริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่อยากเปิดเผยชื่อบุคคลเหล่านี้ เพราะไม่อยากให้เดือดร้อน ส่วนที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง จะให้บริษัท เจ พี มอร์แกน บริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ด้วยนั้น ตนอยากให้ตรวจสอบว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทต่างชาติหรือไม่ การรับเงินบริจาคจากบริษัทต่างชาติน่าจะผิดกฎหมายพรรคการเมือง
คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ยังเรียกร้องให้คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบบริษัท แห่งหนึ่ง ว่ามีการเข้าซื้อหุ้นที่อยู่ในข่ายการใช้ข้อมูลภายใน (อินไซเดอร์) ในองค์กรต่าง ๆ หรือไม่ เพราะจากข้อมูลเบื้องลึกพบว่า มีคนกลุ่มหนึ่งได้รับผลประโยชน์หลายพันล้านบาทจากการปั่นหุ้น และอยากให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าโยงไปถึงนักการเมืองหรือไม่ อีกทั้งที่ผ่านมา ก.ล.ต. ไม่เคยตอบข้อทวงถามของตนในเรื่องนี้ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าต้องการปกปิดข้อมูลดังกล่าวเพื่อใครหรือไม่อย่างไร
ตลาดหุ้นแจงระบบตรวจสอบ
ด้านนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้ตรวจสอบการเข้าซื้อหุ้นที่อยู่ในข่ายการใช้ข้อมูลภายในของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง โดยอ้างว่ามีคนกลุ่มหนึ่งได้รับผลประโยชน์จากการปั่นหุ้น โดยใช้ข้อมูลภายในว่า การตรวจสอบการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีการตรวจสอบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีซอฟต์แวร์ที่ได้มาตรฐานสากล เมื่อพบหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายผิดปกติ ตลท. จะส่งข้อมูลมายัง ก.ล.ต. เพื่อให้ตรวจสอบเชิงลึก และที่ผ่านมา ตลท. ส่งเรื่องให้ ก.ล.ต. แล้วหลายกรณี และบางกรณีอยู่ระหว่างการตรวจสอบจึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่ ก.ล.ต. ไม่สามารถสืบเสาะหาหลักฐานได้จะขอความช่วยเหลือโดยส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนค้นหาและรวบรวมหลักฐาน ทั้งนี้ หากบุคคลใดมีข้อมูลที่ชี้ชัด ตัวผู้กระทำผิดหรือมีหลักฐานที่เชื่อมโยงไปยังผู้กระทำผิด ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ ก.ล.ต.
“ป.ป.ช.”ขยับตั้งอนุกรรมการ
ขณะเดียวกัน นายอภินันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้รายงานเรื่องคำร้องการถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ 8 รัฐมนตรี กรณีการทุจริตต่อหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องมาให้ที่ประชุม ป.ป.ช. พิจารณา และที่ประชุม ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. รีบไปรวบรวมและสรุปข้อมูลคำร้องดังกล่าวโดยเร็วที่สุด จากนั้นรายงานให้ ป.ป.ช. ชุดใหญ่เพื่อพิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนต่อไป คาดว่าเจ้าหน้าที่น่าจะส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ช. ชุดใหญ่พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า
คนดังแห่สมัคร“ส.ว.สรรหา”
ส่วนความคืบหน้าการเปิดรับสมัคร ส.ว.สรรหา นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการสรรหา ส.ว. เปิดเผยว่า วันที่ 9 มี.ค. มีองค์กรต่าง ๆ เสนอรายชื่อบุคคลเข้ารับการเสนอเพื่อสรรหาเป็น ส.ว. ทั้งสิ้น 120 ราย อาทิ นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ อดีต ก.ตร. นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต อดีตประธานกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) นายพีระพล สาครินทร์ อดีตอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน นายมานิต วัฒนเสน อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นางสุวิมล ภูมิสิงหราช อดีตเลขาธิการวุฒิสภา นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานบริหารบริษัท สหพัฒนพิบูล
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
