คตส.ลงดาบสอง เชื่อเชือดเอไอเอส - ซีทีเอ็กซ์ ทันก่อนปีใหม่

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 13 ธันวาคม 2549 19:27 น.

คตส.มั่นใจ ครม.แม้ว ออกมติฉาวเอื้อเอไอเอส ย้ำทำให้รัฐเสียหาย มอบ แก้วสรร-บรรเจิด เฟ้นมือดี ควานหาใบเสร็จ ขณะที่อนุซีทีเอ็กซ์ ผงาดขอเพิ่มกรอบสอบจัดซื้อระบบสายพานลำเลียง ระบุเกี่ยวโยงกัน ลั่น ธ.ค.นี้ ฟันได้แน่

โดยมี นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส.เป็นประธานการประชุม ซึ่งภายหลังใช้เวลาประชุมประมาณ 4 ชั่วโมง นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคตส.แถลงว่า คณะอนุกรรมการ 12 ชุด ได้รายงานความคืบหน้าในการตรวจสอบทั้ง 12 โครงการ โดยที่ประชุมเห็นว่า ยังไม่สามารถตั้งอนุกรรมการไต่สวนได้ ต้องรอการตรวจสอบอีก เช่น โครงการที่ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ 9.9 พันล้านบาท ให้กับบริษัทจัดสรรที่ดินในเครือกฤษดามหานคร จำกัด ที่จะสรุปเสนอต่อที่ประชุม คตส.ได้ในเดือน ธ.ค.นี้ โครงการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า กว่า 4 พันล้านบาทนั้น ในสัปดาห์หน้าจะมีการเชิญกรรมการผู้จัดการธนาคารมาชี้แจงในวันพุธที่ 20 ธ.ค.สำหรับโครงการจัดซื้อกล้ายาง มีนัดสอบพยานในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ส่วนโครงการบ้านเอื้ออาทร พบว่า มีการแก้ไขเปิดช่องให้ผู้รับเหมา และผู้เข้าร่วมโครงการสามารถดำเนินการในรูปแบบใหม่ จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเคหะแห่งชาติหลายหมื่นล้านบาท เป็นต้น

นายสัก กล่าวว่า ส่วนโครงการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 นั้น คณะอนุกรรมการตรวจสอบฯ รายงานว่า มีบุคคลเกี่ยวข้องหลายคน และมีส่วนต่างที่เกี่ยวกับเงินหลายสกุล จึงขออนุญาตที่ประชุมเพิ่มการตรวจสอบเป็นโครงการจัดซื้อจัดจ้างเปลี่ยนแปลงระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจวัตถุระเบิด ซึ่งสาเหตุที่ต้องเพิ่มการตรวจสอบ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกัน โดยจะสอบเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้

โดยได้รายงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป ซึ่งเกี่ยวกับบริษัท แอมเพิลริช โดยกรมสรรพากรได้ไต่สวน นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา ชินวัตร แล้ว แต่ยังไม่ส่งเอกสารมาให้ คตส.ตามที่รับปากไว้ ทำให้อนุ คตส.ไม่สามารถสรุปผลการตรวจสอบได้ แต่ในวันที่ 15 ธ.ค.จะมีการประชุมใหม่อีกครั้ง ซึ่งถ้ากรมสรรพากรส่งเอกสารมาก็จะนำเข้าที่ประชุมได้เลย แต่ที่ประชุม คตส.ครั้งนี้ได้มีการพูดถึงการจัดเก็บภาษีย้อนหลัง นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา บ้าง แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ ทั้งนี้การลาออกของ นายศิโรตม์ สวัสดิ์พานิช อธิบดีกรมสรรพากร ไม่กระทบต่อการทำงานของคตส.เพราะเป็นการประสานงานกับกรมสรรพากรโดยตรง

นายสัก กล่าวว่า ส่วนการทำงานของคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณี นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ กับพวก หลีกเลี่ยงการเสียภาษีนั้น จนบัดนี้อนุกรรมการไต่สวนฯยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจากระบบอีเอ็มเอส ว่า หนังสือถึงผู้ถูกกล่าวหาหรือยัง เพราะติดในช่วงวันหยุดราชการหลายวัน จึงยังไม่สามารถเริ่ม 7 วัน ในการที่จะให้ผู้ถูกกล่าวหาคัดค้านรายชื่ออนุกรรมการไต่สวนได้

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณารับตรวจสอบกรณีที่สหภาพแรงงานทีโอที ขอให้ตรวจสอบหาผู้กระทำผิดที่ ครม.มีมติวันที่ 11 ก.พ.2546 ที่อนุญาตให้นำภาษีสรรพสามิตของผู้รับสัมปทานบริการโทรคมนาคมไปหักออกจากค่าสัมปทานได้ จึงมีมติตั้งอนุกรรมการตรวจสอบในมติ ครม.ดังกล่าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยมอบให้นาย แก้วสรร อติโพธิ เลขานุการ คตส.และนายบรรเจิด สิงคะเนติ กรรมการ คตส.เสนอรายชื่ออนุกรรมการตรวจสอบต่อที่ประชุมในการประชุมครั้งต่อไป

นายสัก กล่าวว่า สำหรับเรื่องใหม่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งถึงกรณีการทุจริตการจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งดีเอสไอส่งให้ คตส.ดำเนินการนั้น ที่ประชุมเห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจของ คตส.จึงมีมติให้ส่งเรื่องกลับดีเอสไอ