“สุเทพ” สั่งแม่ทัพภาค 4-เลขา ศอ.บต.เพิ่มมาตรการเข้มรับมือเหตุรุนแรงภาคใต้ อย่าให้เกิดช่องโหว่ในเมือง หลังเกิดคาร์บอบบ์แฟลตตำรวจ
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ล่าสุดเกิดเหตุคาร์บอมบ์ใต้ถุนแฟลตตำรวจ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ว่า ความจริงเราได้ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ตนก็ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 และติดต่อกับเลขา ศอ.บต. โดยได้ย้ำกันแล้วว่า ในขณะที่ส่งกำลังไปดูแลพื้นที่ตามชนบทที่อยู่ใกล้บริเวณป่าเขา ซึ่งเป็นที่ซ่องสุมของกองกำลังนั้น ก็ต้องจัดกำลังดูแลพื้นที่ในเมืองให้ดี โดยต้องระดมทั้งฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครเข้ามาช่วยงานตำรวจ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้ลงไปประชุมเป็นรายจังหวัดอยู่แล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุขึ้นจนได้ ดังนั้นจึงต้องเพิ่มมาตรการและซักซ้อมกันให้มากกว่านี้
ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายรัฐ และเจ้าหน้าที่ที่ต้องกวดขันมาตรการต่าง ๆให้แน่นหนาขึ้น ซึ่งเราก็เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานหนัก แต่เป็นภาวะที่เราจำเป็นต้องทำ เพื่อดูแลปกป้องชีวิตทรัพย์สินของประชาชนและทางราชการ“สถานการณ์ในพื้นที่เป็นเรื่องที่ทุกคนเป็นห่วง รวมทั้งจุฬาราชมนตรี ท่านก็พยายามให้ชาวมุสลิมได้เข้าใจการอยู่ร่วมกับพี่น้องคนไทยศาสนาอื่นอย่างสันติ ด้วยความเข้าใจกัน ผมได้พบกับท่านหลายครั้ง และได้กราบเรียนเรื่องขั้นตอน แผนงานต่าง ๆ ที่เราลงไปปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งท่านก็เข้าใจและเห็นด้วยในแนวทางที่เราดำเนินการ แต่เรื่องนี้เป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นสิบ ๆ ปี เราต้องใช้เวลาในการแก้ไข มันไม่สามารถที่จะทำได้ภายในไม่กี่เดือน แต่ยืนยันว่าจะไม่ให้ผู้ก่อความไม่สงบมายึด 3 จังหวัดไปได้อย่างแน่นอน”นายสุเทพ กล่าว.