“อัมพร”ยันกระสุน7.62ม.ม.สังหาร“ฮิโรยูกิ”


“ธาริต” ควง “อัมพร” แจงผลตรวจอาวุธสังหารนักข่าวญี่ปุ่น เผยบาดแผลใหญ่กว่ารายอื่น มีขนาดกระสุนปืนใกล้เคียง 3 ชนิด

วันนี้ (28 ก.พ.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัมพร จารุจินดา อดีตผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และที่ปรึกษาดีเอสไอ แถลงข่าวชี้แจงกรณีการเสียชีวิตของ นายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 จากการตรวจสอบเพิ่มเติมจากผลการชันสูตรเดิมพบว่านายฮิโรยูกิ เสียชีวิตจากกระสุนปืน ว่า ก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้ขอความร่วมมือ พล.ต.ท.อัมพร ให้เข้ามาตรวจสอบผลการชันสูตรศพผู้เสียชีวิต จากการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อย่างละเอียดอีกครั้ง ในส่วนของผู้เสียชีวิต 13 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้สรุปสำนวนเบื้องต้นว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต และได้ส่งสำนวนกลับไปให้ตำรวจนครบาลสอบสวนเพิ่มเติม รวมถึงผลการตรวจสอบล่าสุดจาก พล.ต.ท.อัมพร ดีเอสไอก็ได้ส่งมอบให้ตำรวจนครบาลไปประกอบการพิจารณาแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ดีเอสไอออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ไม่ได้มีเจตนาที่จะซักฟอกคดีให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
   
นายธาริต กล่าวต่อว่า คดีของนายฮิโรยูกิ ก่อนหน้านี้มีพยานบุคคลเพียงปากเดียว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเข้าร่วมชุมนุม นปช.ให้ข้อมูลว่าอยู่ใกล้ตัวนายฮิโรยูกิ ขณะถูกยิง แต่ไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใด เชื่อว่ามาจากทหาร อย่างไรก็ตาม นายฮิโรยูกิ ถูกยิงขณะกำลังหันหน้าไปถ่ายภาพแนวทางทหาร แต่ด้านหลังทหารก็มีกลุ่มผู้ชุมนุม ดังนั้น ในช่วงเกิดเหตุต้องถือว่ามีทั้งสองฝ่ายที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องในการเสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้ผลการชันสูตรไม่ได้ระบุอาวุธที่ทำให้เสียชีวิต เพียงแต่ระบุว่าเป็นกระสุนปืนที่มีความเร็วสูง การตรวจสอบของ พล.ต.ท.อัมพร จึงถือเป็นการสอบเพิ่มเติม เพื่อให้คดีมีความรอบคอบมากขึ้น
   
“ตนรู้สึกลำบากใจตอนที่เจ้าหน้าที่ให้รายละเอียดกับตัวเอง ถึงผลการตรวจสอบใหม่ว่า ผลออกมาอย่างนี้แล้วจะทำอย่างไร ดังนั้น สิ่งใดที่เข้ามาเพิ่มเติมก็ต้องทำอย่างตรงไปตรงมา ดีเอสไอไม่ได้ต้องการสร้างสถานการณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น ดีเอสไอเพิ่งเชิญ พล.ต.ท.อัมพร มา เพราะเห็นว่าจะทำให้เกิดความรอบคอบ และชัดเจนมากขึ้น การแสวงหาข้อเท็จจริงเริ่มจากพยาน และต่อด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ เราไม่สามารถหาพยานพร้อม ๆ กันทีเดียวได้ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องทำเช่นเดียวกับศพอื่น ๆ ทั้ง 89 ศพ ที่ยังทำอย่างต่อเนื่องโดยตลอด” นายธาริต กล่าว
   
นายธาริต กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้แจ้งความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว กับสถานทูตญี่ปุ่นแล้ว ส่วนความคืบหน้าสำนวนที่ส่งให้ตำรวจนครบาลไปสอบสวนเพิ่มเติม ตนไม่ต้องการก้าวก่าย และไม่อยากพูดถึงระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมาระยะหนึ่ง มีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง
   
ด้าน พล.ต.ท.อัมพร กล่าวว่า ได้วิเคราะห์จากรายงานผลการชันสูตรของแพทย์เพิ่มเติมทุกคดี คดีไหนที่ยืนยันได้ว่า น่าจะโดนยิงด้วยอาวุธปืนขนาดใดก็จะยืนยันให้ แต่มีบางส่วนที่ไม่สามารถยืนยันได้ สำหรับรายของนายฮิโรยูกิ นั้น ค่อนข้างชัดเจน เพราะว่าบาดแผลมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางโตกว่าแผลในส่วนอื่น ๆ ตามองค์ประกอบที่ควรจะเป็น หากเป็นกระสุนความเร็วสูงขนาดเล็ก ตลอดทางวิ่งของบาดแผลภายในร่างกายกระสุนจะแตกกระจายออก และทิ้งร่องรอยเศษตะกั่วเอาไว้ ซึ่งทางการแพทย์เรียกกันว่า LEAD SNOW STORM แต่สำหรับในรายนี้ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผู้ผ่าว่า ไม่มี LEAD SNOW STORM และบาดแผลทางกระสุนเข้า และบาดแผลทางกระสุนออกก็มีขนาดใกล้เคียงกัน และโตกว่ากระสุนที่ชาวบ้านคิดกันว่าเป็นกระสุนที่น่าจะถูกยิง โดยศพอื่น ๆ ที่ตรวจสอบพบว่าแผลเล็กกว่าฮิโรยูกิ และไม่สามารถบอกอาวุธปืนที่ใช้ได้

พล.ต.ท.อัมพร กล่าวต่อว่า การตรวจสอบบาดแผลจึงสรุปได้เป็นแต่เพียงว่า ยิงจากกระสุนปืนที่มีขนาดใกล้เคียงกับบาดแผล คือ ไม่น้อยกว่า 7 มิลลิเมตร ซึ่งที่มีใช้อยู่ในภูมิภาคนี้มีอยู่ 2-3 แบบ เช่น ปืนเอเค 47 ปืน 05 นาโต้ หรือ ปืนเซกาเซ่ ที่มีขนาดเท่ากันหมด คือ 7.62 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นหัวกระสุน และทราบว่าในที่เกิดเหตุก็ไม่พบด้วย ทุกอย่างก็ได้แค่สรุปจากบาดแผลกระสุนปืนเท่านั้น ซึ่งการตรวจสอบตนไม่ได้ใช้ระยะเวลานาน แค่ชั่วโมงเดียวก็รู้ผล
   
เมื่อถามว่า ระยะกระสุนปืนจากกระบอกปืนจนถึงร่ายกาย จะสามารถบอกระยะที่เจ้าหน้าที่ยืนได้หรือไม่ พล.ต.ท.อัมพร กล่าวว่า ไม่มีใครบอกได้ โดยบาดแผลของนายฮิโรยูกิ อยู่ด้านหน้าเหนือราวนมซ้าย กระสุนทะลุออกที่หัวไหล่ขวา ส่วนจะใช่วิถีที่ยิงมาจากทหารหรือไม่ ตนไม่ทราบ
   
เมื่อถามว่า อาวุธปืนนาโต้ กับซากาเซ่ มีใช้ในประเทศไทยหรือไม่ พล.ต.ท.อัมพร กล่าวว่า มี เพราะไม่มีตนคงไม่เอามาพูด.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์