“อภิสิทธิ์” “สุเทพ” โว แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มได้ผล จะยกเลิกนำเข้า ทีดีอาร์ไอ ระบุ ชนวนสำคัญที่น้ำมันปาล์มขาดแคลน เพราะรัฐบาล กลุ่ม 24 มิถุนา.นัดชุมนุมใหญ่ 5 มี.ค. สับรัฐล้มเหลวแก้ของแพง แถมคอรัปชั่นกันมโหฬาร
วันนี้(28ก.พ.)ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำมันปาล์มขาดแคลนและมีราคาขายแพงเกินกว่ากระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ที่ราคาลิตรละ 47 บาท มาว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนผ่านรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ว่า ปัญหาเกิดขึ้นช่วงปลายปีที่แล้ว สาเหตุ เกิดจากเรากำหนดราคาขายน้ำมันพืชก่อนปีใหม่ไว้ที่ขวดลิตรละ 38 บาท ขณะที่ผลปาล์มราคาผลละ 3 บาทกว่า แต่ราคาผลปาล์มเกิดขยับขึ้นเป็น 9-10 บาท จึงทำให้ไม่สอดคล้องกับราคาขาย และผลผลิตก็ขาดแคลน ในปลายปีที่ผ่านมาผลลิตต่ำกว่าทุกๆปีค่อนข้างมาก รัฐบาลจึงแก้ไขด้วยการอนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์ม 30,000 ตัน พร้อมกับให้ผู้ผลิตหรือผู้ค้าขึ้นราคาขายได้ลิตรละ 47 บาท แต่ปรากฏว่าราคาน้ำมันปาล์มในประเทศและตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นไปอีก จึงเกิดปัญหาทับซ้อน อีกทั้งการควบคุมราคาก็ควบคุมในส่วนของขวดไม่ใช่ปี๊บ จึงทำให้เกิดการยักย้ายถ่ายเท รัฐบาลจึงอนุมัตินำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่ม แต่การดำเนินการยังไม่เรียบร้อยทำให้ประชาชนเดือดร้อน
นายกฯ กล่าวต่อว่า ในการประชุมคณะกรรมการปาล์มน้ำมันเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปให้นำน้ำมันปาล์มจากส่วนอื่นเช่น พลังงานทดแทน เปลี่ยนมาผลิตเป็นน้ำมันเพื่อบริโภค โดยใช้ฝาสีชมพู และเร่งรัดการนำเข้า จากนั้นจะคำนวณสูตรราคาเพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการขาดทุน หรือขาดทุนเพียงเล็กน้อย การผลิตน้ำมันปาล์มตามโครงการของรัฐบาลได้เริ่มแล้ว และจะนำไปกระจายสู่ชั้นวางสินค้า โดยจะทั่วทั้ง กทม.ใน 1-2 วันจากนี้ และทั่วประเทศหลังจากนั้นอีก 2 วัน ซึ่งเมื่อโครงการนี้เดินไปแล้ว จะนำเข้าน้ำมันปาล์มเพิ่มเติม ประชาชนจะไม่ขาดแคลนน้ำมันปาล์มในอนาคต จึงไม่ต้องตื่นตระหนก หรือซื้อกักตุนไว้มากๆ
ส่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ (กปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่อธิบดีกรมการค้าภายในจะขออนุมติให้นำเข้าน้ำมันปาล์มอีก 20,000 ตันว่า
กปช.ทำงานกันในรูปของคณะกรรมการ ใครมีมาตรการอะไรจะต้องนำไปเสนอในที่ประชุมกปช.ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น. เพราะเราจะสรุปสถานการณ์ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.-7 มี.ค. ส่วนสถานการณ์ขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ การแก้ไขปัญหาเป็นผลปรากฏออกมาแล้ว อีกทั้งตอนประมูลซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศมีราคาถูกลง จึงทำให้เงนชดเชยลิตรละ 5 บาท ลดตามลงมาเหลือลิตรละ 3.80-3.90 บาท ทำให้ประหยัดงบประมาณได้ถึง 22 ล้านบาทเศษ รองนายกฯ กล่าวต่อว่า หากสถานการณ์เข้าสู่จุดสมดุล ก็ไม่จำเป็นต้องสั่งนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบเพิ่ม โดยทีผ่านมาเราสั่งน้ำมันปาล์มดิบเข้ามาทั้งหมด 6 หมื่นตัน แนวโน้มอาจหยุดการนำเข้าแค่นั้น หรืออาจนำเข้าเพิ่มเล็กน้อย ต่อข้อถามว่า ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ระบุว่ากระทรวงพลังงานไม่ยอมให้ยืมโควตาน้ำมันปาล์ม 5 พันตันตามที่กปช.อนุมัติไว้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ยังไงก็อยู่ในวิสัยที่แก้ไขกันได้ การประสานงานระหว่างหน่วยงานมักมีปัญหาอุปสรรคอยู่บ้าง แต่ตนจะประสานกับรมว.พลังงานและอธิบดีกรมส่งเสริมพัฒนาพลังงาน ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการปรับให้สมดุลกันระหว่างการนำปาล์มไปใช้ในการผลิตไบโอดีเซลกับการบริโภคปาล์มในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเราต้องคำนวณผลผลิตให้แม่นยำ ต้องกันเอาไว้สำหรับผู้บริโภค ในส่วนน้ำมันขวด ปี๊บ หรือน้ำมันในอุตสาหกรรมใช้เท่าไหร่ ส่วนที่เหลือจึงเอาไปทำไบโอดีเซล
วันเดียวกันนี้ นายนิพนธ์ พัวพงศกร ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคขาดแคลนด้วยการยืมสต๊อกจากโรงสกัดน้ำมันปาล์ม และจากกระทรวงพลังงาน รวม 15,000 ตัน และเปิดให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไขจากต่างประเทศเพิ่มเติมอีก 30,000 ตัน เพื่อให้โรงกลั่นน้ำมันปาล์มผลิตและนำออกมาจำหน่ายในราคาลิตรละ 47 บาท โดยรัฐบาลให้การชดเชยเป็นวงเงิน 200 ล้านบาท ว่า ถือว่าเป็นการแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุดและยังทำให้ผู้เสียภาษีทั้งประเทศเดือดร้อน เพราะรัฐต้องนำเงินของผู้เสียภาษีไปอุดหนุนให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถคุมราคาจำหน่ายน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคให้ได้ลิตรละ 47 บาท
ทั้งนี้แนวทางที่ดีที่สุดคือการเปิดเสรีให้นำเข้าน้ำมันปาล์มดิบแยกไขเป็นเวลา 1-2 เดือน และที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์ต้องยกเลิกการควบคุมราคาน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคไว้ที่ลิตรละ 47 บาทด้วย แต่ควรปล่อยให้ผู้ประกอบการดำเนินการได้เอง และให้กลไกตลาดเป็นตัวกำหนดราคาโดยรัฐบาลหรือข้าราชการไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ เพราะเป็นเรื่องของธุรกิจที่จะดำเนินการกันเอง แต่รัฐบาลอาจต้องเข้าไปดูแลช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกผลปาล์มสดอย่างใกล้ชิดและเต็มที่เพราะอาจได้รับความเดือดร้อนจากราคาตกต่ำได้
นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า มั่นใจได้ว่าเมื่อเปิดให้นำเข้าอย่างเสรีและไม่คุมราคาแล้ว จะทำให้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศมีราคาถูกลงแม้ว่าจะแพงกว่าราคาควบคุมแต่ก็ยังถูกกว่าราคาในตลาดมืดแน่นอน และไม่ต้องนำเงินภาษีของผู้เสียภาษีไปชดเชยใดๆ รวมทั้งไม่เกิดภาวะการขาดแคลนเช่นในปัจจุบันนี้ด้วย ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคในตลาดมืดมีราคสูงถึงลิตรละกว่า 60 บาทแล้ว ขณะที่ราคาในตลาดโลก เช่น ที่มาเลเซีย มีราคาเพียงลิตรละ 50 บาทเท่านั้น
“สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากผู้ผลิตมีต้นทุนสูงขึ้นแต่รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ยังควบคุมราคาไว้จนทำให้ผู้ผลิตขาดทุน จึงไม่มีใครอยากผลิตสินค้าออกมาขาย ขณะที่การแก้ไขปัญหาโดยเปิดให้นำเข้าก็ปรากฏว่ายังต้องแบ่งสรรตามโควตาที่ทำให้เกิดการวิ่งเต้นเพื่อให้ได้รับโควตา ซึ่งเท่ากับว่ารัฐเป็นตัวทำให้เกิดการฮั้วกันขนานใหญ่ เพราะรัฐได้กำหนดราคาขายไว้ที่ขวดละ 47 บาท” ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าว
นายนิพนธ์ กล่าวย้ำว่า การปล่อยให้ราคาสินค้าเป็นไปตามกลไกตลาดจะมีประโยชน์กับผู้บริโภคมากกว่าการตรึงราคาไว้ทั้งที่มีต้นทุนแพงขึ้น จึงทำให้เกิดสถานการณ์ขาดแคลนเช่นนี้ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นเพราะหาซื้อน้ำมันปาล์มไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปซื้อจากตลาดมืดที่แพงกว่าราคาในตลาดโลก แต่เมื่อมีการนำเข้ามาโดยเสรีและวางขายอย่างเพียงพอแล้วก็เชื่อว่ากลไกตลาดจะทำงานได้อย่างเต็มที่นั้นหมายความว่าเมื่อมีของวางขายมากทำให้มีการแข่งขันมาก ราคาก็ย่อมต้องถูกลงตามไปด้วย สุดท้ายแล้วประชนจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
ด้านกระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่า ภายในสัปดาห์นี้คาดว่าจะสามารถกระจายวางจำหน่ายน้ำมันปาล์มได้เต็มพื้นที่ทั่วทุกจังหวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการผลิต หากหลังจากที่มีประกาศนี้ไป ห้างฯใดไม่มีน้ำมันปาล์มจำหน่าย หรือกำหนดจำนวนการขายให้แก่ลูกค้าส่อว่ามีพฤติกรรมกักตุนสินค้า จะต้องถูกดำเนินคดี โดยมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว วันเดียวกันนี้ นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ร่วมแถลงข่าวถึงการจัดเวทีปราศรัยกรณีรัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาราคาสินค้าแพงได้ ว่า ในวันที่ 5 มี.ค.เวลา 16.00-24.00 น. กลุ่ม 24 มิถุนาฯ และ สนนท. จะจัดชุมนุมทางการเมืองเพื่ออภิปรายปัญหาเศรษฐกิจที่บริเวณอนุสาวรีย์วงเวียนใหญ่ เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่มีความสามารถในการแก้ปัญหาราคาสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคา เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น ตลอดจนปล่อยให้ราคาน้ำมันแพงโดยไม่มีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังปล่อยให้มีการคอร์รัปชั่นขนานใหญ่ในกระทรวงต่างๆ ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตจาก 7 บาทต่อลิตรเป็น 5 บาทต่อลิตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทางอ้อมให้กับภาคประชาชนโดยเร็ว และจะต้องเรียกเก็บภาษีที่ดิน ภาษีสิ่งปลูกสร้าง และภาษีมรดกในอัตราก้าวหน้าตามที่ นายกรณ์ จาติกวณิช เคยหาเสียงไว้.
“อภิสิทธิ์” “สุเทพ” โว แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มได้ผล
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง “อภิสิทธิ์” “สุเทพ” โว แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มได้ผล
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว