นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าววันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึงการดำเนินการภายหลังจากที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปเจรจากับฝ่ายกัมพูชาระหว่างการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ที่อินโดนีเซีย โดยทั้ง 2 ฝ่ายให้คำมั่นจะไม่มีการปะทะกันทางทหาร ว่า
เตรียมทำความเข้าใจเพิ่มเติมกับผู้แทนพิเศษขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) คิดว่าทุกอย่างจะเข้ามาสู่ภาวะการเจรจา ส่วนผู้สังเกตการณ์จากอินโดนีเซียที่จะเดินทางมากำลังประสานงานในรายละเอียดในผู้ปฏิบัติระดับล่างแล้ว
นอกจากนั้นเตรียมชี้แจงกับผู้แทนพิเศษจากยูเนสโกจะเดินทางมาในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ โดยต้องการให้เขาเห็นสภาพปัญหา ตนดูจากการพิจารณาจากหลายองค์กรขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อาเซียน แม้กระทั่งสภาของสหภาพยุโรป (อียู) เห็นได้ชัดว่าเขามีความเข้าใจอย่างชัดเจนว่าพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหารเป็นพื้นที่ซึ่งไม่มีความชัดเจนในเรื่องของเขตแดน ดังนั้น ตรงนี้ต้องเป็นโจทย์สำคัญของยูเสโกว่าถ้ายังพยายามที่จะทำอะไรกับพื้นที่ตรงนี้ภายใต้ความไม่แน่นอนนี้ปัญหาจะตามมา
“เขาต้องกลับไปคิดว่าจะปลดล็อคไม่ให้เกิดปัญหาตรงนี้อย่างไร และจะต้องเดินหน้าอย่างไร เพื่อที่จะไปได้ไม่เป็นชนวนของความขัดแย้ง ขณะเดียวกันเขาควรจะมีความมั่นใจในตัวปราสาทว่าไม่ถูกดำเนินการอะไรในทางที่จะทำให้เสื่อมสภาพ เราก็จะพูดถึงทางเลือกต่างๆเกี่ยวกับปัญหาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร” นายกรัฐมนตรีกล่าว