“กษิต”รับผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่พระวิหาร
ยันอินโดฯเปล่าแทรกแซงปัญหาไทย-เขมร เตรียมหารือ“ประวิตร”1-2วันนี้ ชี้ผู้สังเกตการณ์ช่วยรักษาสันติภาพ
เมื่อวันที่ (23ก.พ.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ และนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ ได้เดินทางกลับมาจากการไปร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยนายกษิต ให้สัมภาษณ์ว่า ทุกประเทศที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวมีความพึงพอใจที่ประเทศไทยและกัมพูชาสามารถตกลงกันได้ในการหยุดยิง การที่จะมีคณะผู้สังเกตการณ์การหยุดยิงระหว่าง 2 ประเทศในบริเวณที่มีการปะทะกัน รวมถึงการตกลงกันที่จะให้มีการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(จีบีซี)ไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันทุกคนมีความพอใจที่ทุกสิ่งจะได้รับการแก้ปัญหาด้วยการเจรจาและสันติวิธี ส่วนการกำหนดวันประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา ที่อินโดนีเซียนั้นเป็นเรื่องที่ต้องมีการตกลงกัน ซึ่งตนอยากให้มีการประชุมโดยเร็วที่สุด
เมื่อถามว่าเท่าที่ดูท่าทีของกัมพูชาขณะนี้ คิดว่าเขายังจะนำปัญหาข้อพิพาทกับไทย ไปเข้าสู่ศาลโลกหรือไม่ รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ทราบเรื่องนี้ แต่ขอให้เอาแค่ผลการประชุมที่อินโดนีเซีย และทุกสิ่งก็ได้มีการพูดชัดแล้วในถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน
ต่อข้อถามถึงกำหนดการหารือกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ถึงการที่อินโดนีเซียจะส่งเจ้าหน้าที่ทหารมาเป็นผู้สังเกตการณ์ในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารทั้งในฝั่งไทยและกัมพูชา นายกษิต กล่าวว่า จะหารือกันภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อปรึกษาว่าจะต้อนรับคณะผู้สังเกตการณ์ดังกล่าวอย่างไร ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย จะมีหนังสือมาถึงเรา โดยเขาอาจจะนำเสนอรูปแบบการส่งผู้สังเกตการณ์แบบคร่าวๆมาก่อน ซึ่งจะต้องนำมาจากประสบการณ์ที่ไทยและฟิลิปปินส์เคยส่งผู้สังเกตการณ์ไปประจำที่จังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย และประเทศติมอร์ตะวันออก
เมื่อถามถึงการที่ประชาชนในบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จะรวบรวมรายชื่อเพื่อเรียกร้องต่อองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินการให้กัมพูชาชดเชยค่าเสียหายจากการยิงอาวุธเข้ามาในไทย นายกษิต กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และต้องมีการหารือกันก่อน แต่ถ้าเขาจะไปฟ้องศาลโลกเพื่อให้ดำเนินการเรื่องนี้ ก็คงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับผิดชอบที่จะดูแลชดเชยค่าเสียหายให้อย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีผู้มองว่าการที่อินโดนีเซียส่งคณะผู้สังเกตการณ์มาประจำอยู่ในฝั่งไทยและกัมพูชา เป็นการแทรกแซง นายกษิต กล่าวว่า ไม่ใช่แทรกแซง ทำไมจึงเรียกว่าการแทรกแซง เพราะเป็นการเข้ามาช่วยรักษาสันติภาพเพื่อให้การหยุดยิงมีผลอย่างจริงจัง
“พยายามอย่าถามอะไรที่จะทำให้เกิดประเด็นปัญหาในการตอบ หรือในการชี้แจง ช่วยกันถามแล้วช่วยกันให้ข่าวที่เสริมสร้างความสร้างสรรค์ความเข้าใจกัน และเราต้องดีใจที่ว่ารัฐบาลอินโดนีเซียได้มาเป็นประธานแล้ว ก็ช่วยให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถที่จะตกลงกันได้แล้วเพื่อความยั่งยืนของความสัมพันธ์ 2 ประเทศและความเจริญของอาเซียน อย่าถามอะไรที่มันไม่สบายใจดีกว่า”นายกษิต กล่าว
จากนั้น นายกษิต ได้เดินทางต่อมายังอาคารรัฐสภา 2 เพื่อรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยใช้เวลา 15 นาที จากนั้น นายกษิต กล่าวว่า ได้เดินทางมารายงานผลการประชุมด้วยวาจา และหารือเกี่ยวกับการทำงานที่ต้องประสานงานกันระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ในการที่อินโดนีเซียจะส่งผู้สังเกตการณ์มายังประเทศไทยและกัมพูชา ซึ่งเราอยากให้เขามาที่ไทยก่อน เพื่อจะได้พิสูจน์กันว่าใครเป็นผู้เริ่มยิง และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุปะทะกันขึ้น นอกจากนี้ต้องเตรียมการจัดการประชุมเจบีซีและจีบีซี ซึ่งจะต้องกำหนดวันโดยเร็วที่สุด โดยการประชุมเจบีซีฯจะมีขึ้นที่อินโดนีเซีย