ลิ่วล้อ ทรท.เย้ย คมช.อย่าตกใจกับเงาตัวเอง

ลิ่วล้อไทยรักไทยปากเก่ง ออกโรงจวก คมช.อย่าตกใจกับเงาตัวเอง -พูดยั่วยุคนจะไม่เชื่อ ขณะที่เด็กสุชาติเอาด้วย โวย"สนธิ"ทหารไม่ยุ่งการเมืองนั้นไม่จริง ลั่นประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาบ่งชี้ไว้อย่างชัดเจน

นายเอกพร รักความสุข รักษาการกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีพล.ท. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 ออกระบุว่ามีรายชื่อบุคคล ส.ส.200คนที่เป็นกลุ่มอำนาจเก่าแอบเคลื่อนไหวก่อความไม่สงบว่า ช่วงนี้เป็นช่วงสมานฉันท์ หลายคนเข้าใจสถานการณ์ดี การพูดไม่ใช่การแก้ปัญหา คนที่มีหน้าที่ทำงานก็ทำหน้าที่ให้ดี อย่าดีแต่พูด

หลักการสำคัญของบ้านเมืองต้องทำไปตามหลักการ การไม่ทำตามหลักการ แต่เอาแต่พูด ปกติฝ่ายที่พูดจะเป็นฝ่ายสภา ถ้ายังออกมาพูดเช่นนี้เหมือนไม่มีระบบ ยิ่งทำให้เกิดความไม่มั่นใจ ที่ผ่านการใช้สื่อทั้งทีวีก็อาจดีในข่าวทิศทางเดียวกันแต่ความจริงไม่ปรากฏจากการพูดที่ยังสร้างปัญหาตลอดเวลา แต่อาจตรงข้ามกับความเป็นจริง ถ้ายังหวาดระแวงพูดจายั่วยุ ไม่สมกับขิงแก่ก็อันตราย เพราะคนจะไม่เชื่อกับการเสนอข่าวทางทีวีที่ออกมาในตอนนี้

ลำพังม็อบทุกรัฐบาล ก็ต้องเผชิญ แต่ถ้ามีการวิจารณ์ถ้าไม่จริงก็ไม่ใช่ ก็ไม่ต้องวิตกกังวลกับคงวามไม่จริง แต่สิ่งที่วันนี้เกิดปัญหาเกิดจากความวิตกเกินเหตุทั้งที่ไม่มีอะไรเลยเพราะในอดีตนักการเมืองถูกวิจารณ์ก็รับฟัง แต่สถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่ระบบรัฐสภา คนที่มีความคิดเห็นแตกต่างจาก คมช.และรัฐบาลมองเป็นอย่างอื่น ตอนนี้คนที่มีอาชีพเป็นนักการเมืองเขารอเวลาที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่นั่งจ้องล้ม คมช.ทั้งสิ้น จึงไม่ควรมาหวาดระแวง นักการเมืองและอย่าไปตกใจกับเงาของตัวเองนายเอกพร กล่าว

ขณะที่น.พ.สุทธิชัย จันทร์อารักษ์ อดีต ส.ส.ยโสธร พรรคไทยรักไทย กลุ่มพ่อมดดำ กล่าวตอบโต้กรณีที่ พล.อ.สนธิ ระบุว่า ที่ประเทศชาติย่ำแย่เพราะกองทัพอ่อนแอจึงต้องทำให้การทหารเข้มแข็งกว่าการเมืองว่า ขอฝากถึงพล.อ.สนธิให้กลับไปดูประวัติศาสตร์ว่า ทหารไม่อยากยุ่งกับการเมืองจริงหรือ เริ่มจากปี2475-2500 ยุคนั้นเป็นยุคทหารครองประเทศ 22ปีครึ่ง จากนั้นในปี2500-2516ทหารยึดครองประเทศทั้งหมดด้วยการใช้กระบอกปืนและปี2516-2519มีการปฏิวัติโดยประชาชน แต่หลังปี2519ทหารก็ได้ปฏิวัติยึดอำนาจอีกทั้งนี้ ตั้งแต่ปี2520-2530เป็นต้นมา มีทหารถึงสองคนเป็นนายกรัฐมนตรีคือพล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์และพล.อ.เปรม ติณสูลานท์ จากนั้นจึงเป็นการเมืองที่หัวหน้าพรรคที่เป็นพลเรือนได้เป็นนายก ดังนั้น ที่ทหารบอกว่าไม่อยากยุ่งกับการเมืองจึงไม่เป็นความจริง

น.พ.สุทธิชัย กล่าวว่า การอ้างว่าขณะนี้กองทัพไทยรบชนะได้แค่เขมรและลาวนั้น การพูดเช่นนี้เป็นการดูถูกทั้ง 2 ประเทศและตัวเราเองเพราะการชนะสงครามไม่ได้อยู่ที่ยุทธปัจจัยในกองทัพแต่อยู่ที่ความสามัคคีของคนในชาติ วิธีคิดเช่นนี้ถือว่าคิดผิด ขณะนี้ภัยของประเทศได้แก่ความยากจน ความไม่เป็นธรรมทางสังคม ตรงนี้คือสงครามที่เราต้องทำ ไม่ใช่ไปแย่งชิงประเทศ ดังนั้นการเมืองกับทหารจึงต้องไปพร้อมๆกันไม่ใช่เน้นไปด้านใดด้านหนึ่ง

ส่วนกรณีที่นาย เทพไท เสนพงศ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุเรื่องการจ่ายเงินที่จ.สกลนครของแกนนำพรรคไทยรักไทยนั้น ขอฝากถึงนายเทพไทและพรรคประชาธิปัตย์ว่าอย่าเล่นการเมืองโดยยืมดาบมาฆ่าคน พอตัวเองรบสู้ไทยรักไทยและความหวังใหม่ไม่ได้ก็ยืมคมช.เป็นเครื่องมือ การเมืองแบบนี้ถือว่าล้าหลังใช้ไม่ได้ ความจริงเคยได้ยินนายเทพไทพูดให้ข่าวว่ามีการอมเงินของขุนพลอีสานพรรคประชาธิปัตย์จนแพ้การเลือกตั้งตรงนี้ก็อยากจะทวงถามเหมือนกันว่าหมายความว่าอย่างไร