มาร์ค บีบ ตร. บี้ม็อบเหลือง เปิดถนน


มาร์ค บีบ ตร. บี้ม็อบเหลือง เปิดถนนหวั่นม็อบอื่นเลียนแบบ เสธ.หนั่น โวยตร.ไร้น้ำยา มีแค่ร้อยแต่จัดการไม่ได้


รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) โดยพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช.ผบ.ตร. เป็นตัวแทนเข้าชี้แจงความจำเป็นที่จะต้องต่ออายุการบังคับใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกไปอีก 30 วัน โดยให้เหตุผลว่าในวันที่ 12 มี.ค.จะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดง และในวันที่ 24 มี.ค.จะแถลงผลงานของรัฐบาล คาดว่าจะมีผู้ไปชุมนุม แต่นายกฯได้โต้แย้งว่าตำรวจได้ข้อมูลผิดพลาดเพราะวันแถลงผลงานของรัฐบาลคือวันที่ 24 ก.พ.ไม่ใช่ 24 มี.ค. จากนั้นนายกฯได้ซักต่อว่าเหตุใดจึงเสนอให้ลดพื้นที่การประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงลงจากเดิมจาก 7 เขตเหลือ 4 เขตประกอบด้วยเขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตดุสิต และเขตปทุมวัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นด้วยที่จะให้ลดพื้นที่ โดยระบุว่าไม่เชื่อว่าตำรวจจะป้องกันดูแลบ้านพักนายกรัฐมนตรี ที่ซ.สวัสดีได้ เช่นเดียวกับนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ไอซีที ที่อยากให้ประกาศครอบคลุม 7 เขตเหมือนเดิม โดยทางตำรวจพยายามชี้แจงว่าที่เสนอให้ลดพื้นที่ลงเพราะมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเฉพาะบ้านพักนายกฯและสถานทูตกัมพูชา ได้วางกำลังตำรวจเอาเรียบร้อยแล้ว แต่ในที่สุดครม.ยืนยันให้ประกาศครอบคลุม 7 เขตตามเดิม

ข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครม.พล.ต.สนั่น ได้ซักถามตำรวจหลายครั้งว่าเหตุใดเมื่อมีพ.ร.บ.ความมั่นคงแล้วแต่ไม่สามารถไปขอพื้นที่จากม็อบคืนได้ ทั้งที่ผู้ชุมนุมมีแค่หลักร้อย แล้วอย่างนี้จะมาขอต่ออายุพ.ร.บ.ความมั่นคงทำไม หากต่อไปมีผู้ชุมนุมถึงระดับหมื่นคนจะจัดการอย่างไร ขนาดตนจะเข้าทำเนียบรัฐบาลยังเข้าไม่ได้ ดังนั้นให้ตำรวจไปเจรจากับม็อบขอพื้นที่การจราจรคืนอย่างน้อย 1-2 เลน

ด้านนายกฯกล่าวเสริมว่า เห็นหรือไม่ว่าไม่ใช่แค่ตนที่มีความเห็นลักษณะนี้คนเดียว ที่เชิญตำรวจเข้ามาก็เพื่อจะให้รู้ว่าครม.รู้สึกอย่างไร ตนได้รับรายงานตัวเลขผู้ชุมนุมมาทุกวันมีประมาณ 500-600 คน แต่กลับปิดถนนในบริเวณกว้าง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ความจริงตนไม่ได้ห้ามการชุมนุมเพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่ปิดถนนทั้งหมดแบบนี้ ต่อไปถ้าผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นๆมาอ้างเอาอย่างเดียวกันบ้างจะไม่ดี ในที่สุดพล.ต.ท.วรพงษ์ ก็ได้แต่รับปากว่าตำรวจจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์