เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
เปิดเผยว่า ในวันนี้ (21 ก.พ.) ได้ประสานงานกับพาณิชย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อขอเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 บริษัท คือ บริษัท ปาร์โก้เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ทักษิณปาล์ม (2521) จำกัด และบริษัท ราชา ไบโอ-ดีเซล จำกัด ซึ่งที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่าบริษัทดังกล่าวเกี่ยวพันกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จึงทำให้ดีเอสไอไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบ ดังนั้น เพื่อความโปร่งใสในการทำงานของดีเอสไอ ทุกอย่างทำไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏถึงแม้รัฐบาลจะเป็นคนสั่งการให้ดีเอสไอตรวจสอบ หากพบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคนในรัฐบาลทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอน ไม่ได้ละเว้นหรือเลือกปฏิบัติ
นายธาริตกล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) ดีเอสไอจะส่งพนักงานสอบสวนไปร่วมสังเกตการณ์ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มแห่งชาติ
มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน เพื่อตรวจสอบและวิเคราะห์ว่าทำไมต้องเป็น 10 บริษัทที่ได้โควต้าการผลิต การนำเข้าปาล์มจำนวน 30,000 ตัน เพราะมีอีกหลายบริษัทที่ประกอบกิจการผลิตปาล์ม ส่วนบริษัทที่ตั้งใหม่ได้โควต้านั้น ชื่อบริษัท สุขสมบูรณ์ น้ำมันพืช จำกัด ข้อมูลที่พบบริษัทนี้ไม่เคยได้รับโควต้าการผลิตน้ำมันปาล์ม แต่ครั้งนี้ได้รับ 1,200 ตัน และยังขอปันส่วนน้ำมันปาล์มจากบริษัทอื่นอีกแห่งละ 100-200 ตัน จากบริษัทมรกต อินดัสตรีส์ บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัท พืชปทุม จำกัด บริษัทชุมพรปาล์ม และบริษัทเหล่าธงสิงห์ รวมโควต้าทั้งสิ้น 1,800 ตัน
อธิบดีดีเอสไอยังกล่าวอีกว่า ดีเอสไอจะประสานไปยังกองทัพเรือ เพื่อตรวจสอบว่าเรือส่งปาล์มมาจอดลอยลำที่ท่าเรือจริงหรือไม่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจน เป็นเพียงข่าวที่ออกมาจากพรรคเพื่อไทย