ที่ร.ร.แคทรายวิทยา จ.ราชบุรี ปรากฏเด็กๆ บ่นอุบ โดนเกณฑ์มาต้อนรับนายกฯ
ทั้งที่เป็นวันหยุดมาฆบูชา เมื่อ 18 ก.พ.
นร.โวยวันหยุด-ถูกเกณฑ์ต้อนรับอภิสิทธิ์ อุ้มสมบัติ ปัดแก้รธน. เอื้อปชป.
เด็กนักเรียนราชบุรีบ่นเสียดายวันหยุด ถูกเกณฑ์รับ "มาร์ค" บันทึกเทปรายการทีวี ขณะที่นายกฯปัดยุบสภาเดือนมิ.ย. พลิ้วเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น โต้ลั่นข้อเสนอชนะปาร์ตี้ลิสต์ได้ตั้งรัฐบาลของ"สมบัติ"ไม่ได้เอื้อปชป. ยันรัฐบาลนี้จบงานแก้รธน.แล้ว
ขณะที่"กอร์ปศักดิ์"ย้ำอีกยุบสภาแน่ครึ่งปีแรก อ้างแผนหาเสียงเสร็จหมดแล้ว "ไพโรจน์ สุวรรณฉวี" ฟันธงยุบสภาแน่เดือนเม.ย. หลบม็อบแดงนับแสนชุมนุมใหญ่รำลึก 1 ปีราชประสงค์ ไม่เช่นนั้นอาจไม่มีโอกาสยุบเลย แนะ "สมบัติ" ไขก๊อกจากนิด้า ทำสถาบันเสื่อมทราม "จตุพร" เหน็บให้แก้รธน.ยกเก้าอี้นายกฯให้หัวหน้าพรรคปชป. เพื่อไทยซัดยุบสภาแค่เล่นละครตบตาประชาชนรายวัน เย้ย "อภิสิทธิ์-นายกฯเทวดา" บริหารประเทศโดยไม่รับผิดชอบ "ประสพสุข" มึนส.ว.จะแห่ลาออกรวดเดียว 67 คน ยันไม่กระทบเรื่องการพิจารณากฎหมาย เตรียมเสนอที่ประชุมวุฒิ 21 ก.พ. ยกเว้นข้อบังคับให้ส.ว. เป็นกมธ.ได้มากกว่า 2 คณะ
เด็กบ่นถูกเกณฑ์รับ"มาร์ค"
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังโรงเรียนแคทรายวิทยา ประถม และมัธยมศึกษา ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อบันทึกเทปรายการ"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ซึ่งจะออกอากาศในวันที่ 20 ก.พ. เวลา 09.00 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย โดยเป็นการทำกิจกรรมติด ตามนโยบายขยายโอกาสทางการศึกษาจาก 12 ปี เป็น 15 ปี มีนายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าฯราชบุรี รวมทั้งส.ส.ราชบุรี ประกอบด้วยนายสามารถ พิริยะปัญญาพร และนายยศศักดิ์ ชีววิญญู จากพรรคประชาธิปัตย์ และนายมานิต นพอมรบดี ของพรรคภูมิใจไทย มาให้การต้อนรับ
เวลา 11.00 น. นายกฯ ได้เดินทางมายังมหา วิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เพื่อติดตามนโยบายโอกาสการเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา ซึ่งการเดินทางมาจ.ราชบุรีครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบในพื้นที่ประมาณ 200 นาย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนายกฯ มาดูแลความปลอดภัยทั่วบริเวณ แต่ไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันหยุด สถาบันการศึกษาที่นายกฯเดินทางไป จึงมีนักเรียน นักศึกษาจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ถูกเกณฑ์ให้มาต้อนรับ โดยนักเรียนประถมโรงเรียนแคทรายวิทยารายหนึ่งระบุว่า"คุณครูเกณฑ์ให้มา ก็ตื่นเต้นที่จะได้เห็นนายกฯตัวเป็นๆ แต่เสียดายวันหยุดแทนที่จะได้อยู่บ้านและไปทำบุญกับครอบครัว"
รัฐบาลนี้แก้ไขรธน.จบแล้ว
ต่อมาเวลา 12.15 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้พรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเป็นอันดับ 1 เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และให้หัวหน้าพรรคเป็นนายกฯ รวมถึงไม่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ข้อเสนอของนายสมบัติ เป็นข้อเสนอในเชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงมาก ตนเคยย้ำว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนในสังคมต้องร่วมกันพิจารณาในระยะยาว ดังนั้น การวิจารณ์ว่าเป็น การชงให้พรรคใดพรรคหนึ่งได้เปรียบในการเลือกตั้งที่จะมาถึงนั้น คงไม่มี เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญในรัฐบาลชุดนี้ถือว่าจบแล้ว การแก้ไขเพิ่มเติม 2 ประเด็นผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วเดินต่อไปตามขั้นตอนของรัฐธรรม นูญ ส่วนประเด็นอื่นๆ นั้น เป็นโจทย์สำหรับสังคมหรือพรรคการเมืองที่จะนำเสนอว่าจะให้เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะนำเรื่องนี้ไปใช้หาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่พรรคให้ความสำคัญคือปัญหาปากท้อง สินค้ามีราคาแพง การเพิ่มรายได้ให้ประ ชาชน อย่างไรก็ตาม ตนขอให้ทางพรรคไปพิจารณาข้อเสนอเหล่านี้ก่อน
ปัดข่าวยุบสภาเดือนมิ.ย.
ต่อข้อถามว่าทำไมข้อเสนอดังกล่าวจึงสอด คล้องกับสิ่งที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ พูดไว้ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่ยังมีเรื่องอีกมาก เช่น การอยู่ครบวาระ สิ่งที่นายกอร์ปศักดิ์ พูดนั้นพูดเชิงการเมืองหลังการเลือกตั้งในระบบรัฐสภา ที่จริงขึ้นอยู่กับประเพณีของแต่ละประเทศ เราจะเห็นว่าในระยะหลังมีหลายประ เทศที่เลือกตั้งแล้วไม่มีพรรคใดได้เสียงข้างมาก หลักใหญ่คือถ้าใครรวบรวมเสียงข้างมากได้ก่อนก็เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล และประเทศไทยก็มีประเพณีทำนองนั้นอยู่
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่พูดว่าพรรคใดมีคะแนนในระบบบัญชีรายชื่อมากที่สุดควรเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลนั้น เป็นการพูดในเชิงปัญหาความชอบธรรมที่มักถกเถียงกันว่าคะแนนที่ประชา ชนลงให้กับพรรค สะท้อนว่าต้องการให้พรรคนั้นเป็นรัฐบาล เมื่อถามว่าคิดว่าหลังเลือกตั้งครั้งใหม่ สภาพการณ์จะเป็นอย่างไรในการจับขั้วทางการเมือง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดอะไรกัน เพราะต้องรอดูผลการเลือกตั้งก่อน
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการยุบสภาและการกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งนายกอร์ปศักดิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุจะยุบสภาก่อนเดือนมิ.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์ ยิ้มแล้วกล่าวว่า "ชัดเจนก็คือยุบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น"
"กอร์ป"ย้ำยุบแน่ครึ่งปีแรก
นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ครึ่งปีแรกรัฐบาลยุบสภาแน่นอน โดยพรรคประชาธิปัตย์จัดทำแผนการเลือกตั้งไว้แล้ว พร้อมชูนโยบายที่ประสบความสำเร็จของรัฐบาล อาทิ ประกันรายได้ เพิ่มทุนการศึกษาอีกร้อยละ 25 ทำให้ประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นตามไปด้วย และโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน โดยนโยบายต่างๆ ชี้ให้เห็นว่าทำได้จริง โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟไทย-จีน ซึ่งไม่หวังจะเจาะฐานเสียงภาคใดเป็นพิเศษ แต่ต้องการให้พี่น้องภาคอีสานมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยการส่งสินค้าไปจำหน่ายที่ประเทศจีน
3 พีฟันธงยุบสภาเดือนเม.ย.
ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำกลุ่ม 3 พี พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงข่าวรัฐบาลจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกว่า การ เมืองยังคงไร้เสถียรภาพเหมือนเดิม ถ้ามีการยุบสภา เลือกตั้งในครึ่งปีแรก นักการเมืองที่กลับมาเป็นรัฐบาลก็หน้าเดิม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นนายกฯเหมือนเดิม เพราะแค่ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ได้แล้วอย่างน้อย 10 ที่นั่งโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ขณะที่พรรคเล็กคงเหนื่อย ต้องรบในพื้นที่แทบตายกว่าจะได้ส.ส. เลือดตาแทบกระเด็น ซึ่งเป็นผลมาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ที่เพิ่มส.ส. บัญชีรายชื่อ ทำให้ประชาปัตย์ได้ประโยชน์เหมือนหยิบพุงปลาไปกิน
ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ กล่าวว่า เชื่อว่านายกฯน่าจะยุบสภาไม่เกินเดือนพ.ค. เนื่องจากเดือนพ.ค. ครบ 1 ปีที่มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ วันนั้นคนเสื้อแดงนับแสนจะมีการชุมนุม ถ้ามีอุบัติเหตุคนตาย 2-3 คน ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม นายอภิสิทธิ์ คงรู้อนาคตตัวเอง ถ้าถึงวันนั้นนายกฯยังไม่ยุบสภา จะไม่มีโอกาสยุบสภาอีกเลย
"ดังนั้น เชื่อมั่นว่านายกฯจะต้องยุบสภาในเดือนเม.ย. เพราะคงไม่อยากไปเจอวันครบ 1 ปีการสลายชุมนุมคนเสื้อแดง สู้ไปเลือกตั้งแล้ว กลับมาอย่างสง่างามดีกว่า ใช้การเลือกตั้งล้างมือตัวเองให้สะอาด ชนะเลือกตั้งอย่างสง่างามแล้วกลับมาเป็นนายกฯ ดีกว่าเจอม็อบในวันนั้น ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน รัฐบาลคงไม่กลัวหากดูจากผลการอภิปรายงบกลางปีและไม่เป็นสาเหตุให้รัฐบาลชิงยุบสภาหนีแน่นอน" ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ กล่าว
ฉะ"สมบัติ"ประจบรัฐบาล
ว่าที่ร.ต.ไพโรจน์ กล่าวว่า วันนี้การเลือกตั้งใหม่ชัดเจนอยู่แล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบเรื่องส.ส.บัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพราะเพิ่ม จาก 80 ในรัฐธรรมนูญปัจจุบันเป็น 125 คน จนนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ประธานคณะกรรม การนโยบายและยุทธศาสตร์ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่าใครได้ส.ส.บัญชีรายชื่อมากก็จัดตั้งรัฐบาล แต่แปลกใจที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ผู้ที่ชนะเลือกตั้งส.ส.บัญชีรายชื่อหรือป๊อปปูล่าร์โหวต เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล อันนี้ถือว่าเสียหาย จริงๆ แล้วนายสมบัติ ไม่น่าประจบรัฐบาลถึงขนาดนี้ ถ้าตนเป็นนายสมบัติในฐานะอธิการบดีนิด้า แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากก.ตร.เสนอชื่อให้เป็นกรรม การผู้ทรงคุณวุฒิ ตนคงลาออกจากอธิการบดีนิด้าไปแล้ว ไม่ให้สถาบันมัวหมอง
ปชป.แจงไม่ได้ชี้นำ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนส.ส.บัญชีรายชื่อสูงสุดได้จัดตั้งรัฐบาลและหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯว่า เป็นความคิดของกรรมการ รัฐ บาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ชี้นำหรือเสนอความเห็นใดๆ เมื่อเป็นความเห็นอิสระ อยากให้ทุกฝ่ายให้ความเคารพ และคณะกรรมการอยากให้สังคมช่วยแสดงความเห็นจะได้เป็นข้อสรุป แต่ทั้ง หมดขึ้นอยู่กับประชาชนและสังคมจะยอมรับได้หรือไม่ ยืนยันว่าความเห็นดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคและรัฐบาล ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยโยนว่าเป็นแผนของรัฐบาล โดยอ้างแผนบันได 3 ขั้น ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรคเพื่อไทยพูดมาหลายครั้งในยุคคมช.จนถึงปัจจับัน พยายามโยนความผิดให้พรรคประชาธิปัตย์ ยัดเยียดให้เป็นประเด็นการเมือง
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนที่นายกอร์ปศักดิ์ มีความเห็นสอดคล้องกับนายสมบัตินั้น คงเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า ไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นเดียวกัน
โต้"วิชาญ"เอาตัวให้รอด
นายเทพไท กล่าวถึงนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ระบุไม่ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญสูตรใดก็ตาม พรรคเพื่อไทยจะชนะทุกสูตรว่า นายวิชาญไม่ควรสบประมาทคู่แข่งมากเกินไป ไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยรีบคุย นาย วิชาญควรเอาตัวเองให้รอดในสนามเลือกตั้งกทม.ก่อน เพราะการเลือกส.ก. และส.ข.การเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้ง ประชาชนก็สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์อย่างท่วมท้น
นายเทพไท กล่าวถึงการอภิปรายร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2554(งบกลางปี)ว่า จนถึงบัดนี้ส.ส.พรรคเพื่อไทยยังจับกลุ่มวิจารณ์การอภิปรายของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย โดยกลุ่มที่สนับสนุนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรค ให้คะแนนนายมิ่งขวัญสอบตก แต่คนที่สนับสนุนนายมิ่งขวัญ ให้คะแนนแค่สอบผ่าน ซึ่งน่าหนักใจแทนนายมิ่งขวัญ เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ตนมีโอกาสพบนายมิ่งขวัญ เป็นการส่วนตัวและให้กำลังใจ ดูสีหน้านายมิ่งขวัญแล้วผิดปกติ เพราะอาจถูกพรรคเพื่อไทยกดดันมาก
"อยากให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนนายมิ่ง ขวัญต่อไป แต่ถ้าผลงานไม่เข้าตานายใหญ่ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ต้องพิสูจน์ว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงแม่ทัพจริง อยากดูท่าทีร.ต.อ.เฉลิม ว่าจะยอมกลืนน้ำลายตัวเองที่พ่นออกมาเป็นปี๊บหรือไม่" นายเทพไท กล่าว
อัด"มิ่ง"บิดเบือนข้อเท็จจริง
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยอมรับว่าการเปิดตัวอภิปรายงบกลางปี 2554 ของนายมิ่งขวัญ อาจทำให้ประชาชนมีทางเลือกระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายมิ่งขวัญ แต่ถ้าดูเนื้อหาการอภิปราย ยังใช้การตลาดเชิงลบคือพูดความจริงบางส่วน จงใจบิดเบือนความจริงหลายส่วน ที่เข้าใจผิด 3 เรื่องคือ การกู้เงิน หนี้สิน ดอกเบี้ย พรรคได้ให้ทีมเศรษฐกิจติดตามพบว่ามีการบิดเบือนข้อเท็จจริง 5 เรื่อง คือ 1.ตัวเลขการกู้เงินในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยปกปิดการออกพ.ร.ก.กำหนดกู้เงิน 7 แสนล้าน ในปี 2545 และการกู้เงินจนถึงปี 2551 สร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน
2.ตัวเลขเงินกู้ที่เกิดจากการออกพ.ร.บ.งบประมาณปี 2552 เข้ามาบวกเป็นเงินกู้ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ 3.บิดเบือนว่าหนี้สาธารณะสูงสุดในประวัติการณ์ ซึ่งความจริงปีนี้มีแนวโน้มลดลง 4.ดอกเบี้ยของรัฐบาลชุดนี้สูงสุด และ5.การออกงบกลางปีทำลายวินัยทางการเงินการคลัง ซึ่งความจริงรัฐบาลลดภาระภาคต่างๆ ลงได้
เด็กมิ่งยอมรับมวยใหม่
นายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายงบประมาณกลางปี 2554 ของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยว่า พวกตนได้สอบถามนายมิ่งขวัญ ถึงความพอใจในการอภิปราย ซึ่งนายมิ่งขวัญ มีความพอใจการอภิปรายของตัวเองระดับหนึ่ง แต่มีเสียงสะท้อนจากพวกตนว่าในส่วนของข้อมูลถือว่าโอเค แต่ช่วงที่นายมิ่งขวัญตอบโต้นายกฯในการใช้สิทธิพาดพิงนั้น ยังไม่เข้าที่ เนื่องจากยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร
"ตอนท้ายเสียดายที่นายมิ่งขวัญ พูดกับนายกฯดีเกินไป ต้องไม่ลืมว่าเราไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่รัฐบาลทำ ดังนั้นต้องกระแทกอย่างแรงๆ แต่กรณีนี้กลับไปพูดด้วยความปรารถนาดีซึ่งมันไม่ใช่ และเห็นว่าไปจู้จี้กับตัวนายกฯมากเกินไป ทำให้การรับฟังข้อมูลของประชาชนสะดุด แต่เราก็เข้าใจเพราะมวยสร้าง ขึ้นเวทีใหม่ก็ต้องมีบ้าง เรื่องนี้พวกผมได้สะท้อนให้นายมิ่งขวัญรับทราบแล้ว เชื่อว่านายมิ่งขวัญจะมีการปรับปรุงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นายสุรสิทธิ์กล่าว
"ตู่"เหน็บยกนายกฯให้ปชป.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานคณะกรรมการพิจารณาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญเสนอให้พรรคที่ได้คะแนนระบบบัญชีรายชื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่ต้องคำนึงถึงส.ส.เขตว่า เป็นการแสดงความเห็นในลักษณะที่เรียกว่าหางโผล่ เพราะสอดคล้องและอธิบายได้อย่างดีว่าเหตุใดต้องเป็น 375+125 ทุกอย่างที่นายสมบัติ ทำก็เพื่อประโยชน์ของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะหากแก้ไขเช่นนี้จริง จะกลายเป็นหัวข้อหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ขอให้ประชาชนเลือกระบบบัญชีรายชื่อ โดยยกส.ส.เขตให้พรรคเพื่อไทยไป ดังนั้น ถามว่าส.ส. 2 ประเภทนี้มีศักดิ์ศรีต่างกันอย่างไร เหตุใดถ้าส.ส.บัญชีรายชื่อได้เยอะถึงเป็นรัฐบาลได้เลย หากจะแก้ไขอย่างนี้ ขอให้แก้ไปเลยว่านายกฯจะต้องมาจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น
ตั้งฉายา"มาร์ค-นายกฯเทวดา"
เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุอาจจะยุบสภาก่อนเดือนมิ.ย.ว่า นายสุเทพ พูดในตอนเช้า แต่ช่วงบ่ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กลับบอกว่ายังไม่ทราบเรื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทยก็เคยให้ข่าวจะมีการยุบสภาในช่วงเดือนมิ.ย. จะเห็นได้ว่าเป็นกระบวนการของรัฐบาลที่แบ่งบทกันเล่นละครเพื่อตบตาประชาชนรายวัน ทั้งนี้ หากมีการยุบสภาเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งเมื่อนั้น แต่รัฐบาลควรสนใจแก้ปัญหาให้ประชาชนมากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภคที่ราคาแพงขึ้น เช่น น้ำมันปาล์ม
"การที่นายอภิสิทธิ์ บริหารประเทศโดยไม่แสดงความรับผิดชอบ ทั้งกรณีคนเสื้อแดงเสียชีวิต 91 ศพจากการสลายการชุมนุม จับตรงไหนก็เกิดการทุจริตตรงนั้นในรัฐบาล รวมทั้งเกิดปัญหาตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาแต่รัฐบาลก็ยังอยู่ได้นั้น ขอยกระดับนายอภิสิทธิ์ จากเดิมที่เป็น โฆษกเทวดา สมัยรัฐ บาลนายชวน หลีกภัย อดีตนายกฯ เป็นนายกฯเทวดา" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
แฉงบประชาวิวัฒน์เกิน 2 พันล.
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมช.คลัง และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการประชาวิวัฒน์ของรัฐบาลว่า ตนอยากให้นายกฯ อย่าซุกซนกับตัวเลขเหมือนที่ว่าคนอื่นเอาไว้ เพราะการที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเริ่มออกโครงการประชาวิวัฒน์ เรื่องการปล่อยกู้ให้กับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และหาบเร่แผงลอย โดยใช้ธนาคารของรัฐ 5 แห่งนั้น โดยหลักการเป็นสิ่งที่ดี ให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยเข้าถึงแหล่งทุน แต่วิธีการปล่อยกู้เป็นสองมาตรฐาน เนื่องจากปล่อยกู้เฉพาะผู้มีรายได้น้อยในกทม.เท่านั้น ซึ่งคนที่อยู่ต่างจังหวัดจะไม่ได้รับสิทธิกู้นี้
นายพิชัย กล่าวว่า โครงการนี้มีโอกาสล้มเหลวสูงเนื่องจากรัฐบาลไม่ได้เข้าไปค้ำประกันหนี้เสียที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยกู้นี้ แม้จะมีหลักการปล่อยกู้ดีอย่างไรก็ต้องมีหนี้เสียอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่ธนาคารของรัฐไม่ถนัด จะทำให้ธนาคารของรัฐปฏิบัติตามในช่วงแรก และจะหยุดปล่อยกู้เพราะกลัวมีหนี้เสียมากโดยไม่มีผู้รับผิดชอบ รัฐอาจต้องไปบังคับให้ปล่อยกู้เพิ่ม ซึ่งหนี้เสียจะมีผลกระทบทำให้รายได้ของธนาคารรัฐน้อยลง และไม่สามารถส่งกำไรเข้าคลังได้
"เพื่อให้โครงการนี้เดินหน้าได้ รัฐบาลต้องเข้าไปค้ำประกันหนี้เสีย จะทำให้ค่าใช้จ่ายในประชาวิวัฒน์สูงกว่าที่รัฐบาลบอกไว้ที่ 2 พันล้านบาท แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่น่าประสบความสำเร็จ อีกทั้งเรื่องมอเตอร์ไซค์ และหาบเร่แผงลอยอยากให้รัฐแก้ไขปัญหาเรื่องถูกกลุ่มอิทธิพลรีดไถที่เป็นรายจ่ายหลักด้วย แต่ไม่แน่ใจว่ารัฐจะแก้เรื่องกลุ่มอิทธิพลได้หรือไม่ เพราะอาจต้องอาศัยกลุ่มอิทธิพลนี้ในการดำรงอยู่ของรัฐบาล" นายพิชัยกล่าว