ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีคณะกรรมการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) เป็นประธาน เสนอการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยให้มี ส.ส.ร.3 ว่า
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ยังไม่มีการคุยกันในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ตอนนี้ยังมีเวลาศึกษา แต่ 5 ประเด็นที่เสนอยังไม่มีความชัดเจน เช่น
1.ให้หัวหน้าพรรคที่ได้คะแนนเสียงส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกฯโดยไม่ต้องใช้เสียงข้างมากของสภา น่าจะปฏิบัติยาก ส.ส.และประชาชนไม่ให้การยอมรับ เพราะเสถียรภาพของนายกฯจะอ่อนไหวมากหากเสียงในสภาไม่พอเป็นเสียงข้างมาก
2.ฝ่ายบริหารห้ามยุบสภา มีปัญหาว่า ถ้าไม่มีการถ่วงดุลระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายสภา ถ้ามีความขัดแย้งของสองฝ่าย จะไม่มีทางออก
3.การห้ามสภาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถือว่าเป็นระบบประธานาธิบดี ขัดหลักระบบรัฐสภาสากล เสี่ยงต่อการรัฐประหารหากเจอทางตัน
4.การห้าม ส.ส.เป็นรัฐมนตรี รัฐธรรมนูญ 40 เคยห้ามแบบนี้และพิสูจน์แล้วว่า เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของ ส.ส.ที่ควรเชื่อมโยงกับฝ่ายบริหาร และขณะนี้ประชาชนก็อยากให้ ส.ส.เป็นเลขานุการหรือผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ ซึ่งขัดกับที่คณะกรรมการชุดนี้เสนอ
5.ส.ส.ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค ซึ่งจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยเคยล้มเหลวที่เปิดให้ ส.ส.ไม่สังกัดพรรค มีข้อครหาว่า ส.ส.โสเภณี ซื้อตัว ส.ส. ขนาดปัจจุบันมีระเบียบพรรคแล้วแต่ก็บังคับไม่ได้ ฉะนั้นโกลาหลแน่ จะเกิดตลาดนัด ส.ส.ในสภา พรรคการเมืองอ่อนแอซึ่งกระทบระบอบประชาธิปไตย