สั่งจับตาร่างรัฐธรรมนูญห่วงทำมั่ว

ที่พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ได้มีการจัดเสวนาในโอกาสวันรัฐธรรมนูญ ในหัวข้อ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2475 และ 2549 เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

โดย รศ.ดร.นรนิติ เศรษฐบุตร อดีตเลขาฯ สถาบันพระปกเกล้า กล่าวตอนหนึ่งว่า อยากฝากให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) ที่จะเกิดขึ้น พิจารณาร่าง รธน. ใหม่ ในลักษณะประนีประนอม เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลงประชามติอย่างแท้จริง, ทั้งนี้ ประเทศไทยมี รธน. 17 ฉบับ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะเราเป็นประเทศที่รวย รธน. มากเกินไป และให้พิจารณาว่า การแก้ไข รธน. ในบางมาตรา จะดีกว่ายกเลิกทั้งฉบับแล้วไปร่างใหม่ เพราะจะเป็นมาตรการป้องกันการยึดอำนาจที่ได้ผล เนื่องจากในต่างประเทศ การแก้ไข รธน. บางมาตรา ยังจะทำให้ รธน. มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่นำไปสู่การฉีก รธน. เพื่อยึดอำนาจได้โดยง่าย

น.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำ 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต่อต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า รธน. ปี 2475 มีความเป็นประชาธิปไตยกว่า รธน. ชั่วคราวปี 2549 เนื่องจาก รธน. 49 มีการรับรองอำนาจอภิชนให้กับคณะทหาร และพยายามจะทำให้ระบอบเสนาอมาตยาธิปไตยคืนชีพ

ตนอยากให้สังคมช่วยจับตาขั้นตอนสุดท้ายของการลงมติ รธน. ใหม่ จะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน เนื่องจากมีความพยายามจะเขียนให้ รธน. ฉบับใหม่สามารถสั่งได้ โดยคงอำนาจให้คณะนายทหาร สังเกตได้จากมีการเปิดเส้นทางลัดของ รธน. คือถ้า รธน. ไม่ผ่านการลงประชามติ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) สามารถยึดเอา รธน. ฉบับใดฉบับหนึ่ง ที่เคยประกาศใช้ มาแก้ไขใช้ใน 30 วัน ตรงนี้คือจุดอ่อน และตนอยากฝากให้ คมช. ทำงานด้วยความรวดเร็ว อย่ากลัวปัญหาคลื่นใต้น้ำมาก ขณะนี้คลื่นใต้น้ำไม่เกิดขึ้นแน่ แต่ตราบใดที่การร่าง รธน. เป็นไปอย่างยืดเยื้อ กระบวนการคลื่นใต้น้ำจะกลับมา.