ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงกรณีสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เสนอเป็นตัวกลางให้รัฐบาลและพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) แลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อหาทางออก กรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ว่า ไม่มีปัญหาตนพร้อม เพราะข้อมูลไม่ได้เปลี่ยนไปไหน แต่การพูดอะไรจะต้องรับผิดชอบ เพราะงานด้านนี้ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ควรเสนอต่อสาธารณชน หาก พธม.ไม่ยอมเจรจา ก็ต้องถามกลับไปว่าทำไม ในเมื่อทุกฝ่ายต้องการให้ประเทศสงบและไม่อยากให้เสียดินแดน ถ้าข้อมูลไม่ตรงกัน ก็น่าจะมาพูดคุยกัน
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เห็น พธม.เรียกร้องให้แก้ปัญหาดังกล่าวตามกลไกทวิภาคี
ซึ่งก็เป็นจุดที่รัฐบาลยึดมาตลอดและทางกัมพูชาก็ยอมรับเพราะยังมีบันทึกว่าด้วยความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ไทย-กัมพูชา ปี 2543 อยู่ พยายามอธิบายเรื่องนี้มาตลอด แต่ พธม.ไม่ยอมมาพูดคุยกันแถมหยิบเรื่องที่จะทำให้เกิดช่องว่างมากขึ้นมาพูด ที่สำคัญการเคลื่อนไหวของ พธม.มีรูปแบบเชิงกล่าวหามากขึ้น บอกว่าตนมีผลประโยชน์ทางทะเล ซึ่งไม่เป็นความจริง เอกสารหลายอย่างที่ พธม.หยิบมา รัฐบาลนี้ก็ได้แก้ปัญหาไปแล้ว แต่ยังหยิบเอกสารเก่ามาพูดทำให้เกิดความสับสน
อภิสิทธิ์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของกัมพูชาในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องการแสดงให้เห็นว่ากลไกทวิภาคีเดินหน้าไม่ได้
แต่ไทยต้องชี้แจงกับประเทศต่างๆ ด้วยเหตุผลและหลักฐาน เพราะหากเวทีระหว่างประเทศอื่นๆ สนับสนุนให้ทั้ง 2 ฝ่ายกลับไปคุยกับ สุดท้ายกัมพูชาก็ต้องกลับมาคุยกับไทย อย่างไรก็ตาม ได้เตรียมมาตรการอื่นรองรับเอาไว้ หากผลออกไม่ตรงกับที่คาดหวัง แต่ทั้งนี้จะต้องไม่ไปหลงกลกับการยั่วยุจากกัมพูชา อย่างเหตุการณ์วันที่ 13 กุมภาพันธ์ หากไทยไปหลงกล ก็จะไปเสริมท่าทีของกัมพูชาที่ต้องการใช้กลไกพหุภาคีแก้ปัญหาทันที