ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เผยสถิติความรุนแรงมกราคม-กุมภาพันธ์ 54 หนักหน่วงสุดในรอบ4ปี ชี้ยิง-ฆ่า-เผา-บึ้ม หวังดึงโอไอซี แสดงบทบาทบีบรัฐบาล และทหาร หันหน้าสู่โต๊ะเจรจาเร็วยิ่งขึ้น
ผศ.ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ เปิดเผยถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณ ถนน ณ นคร ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลนครยะลาได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากว่า จากการรวบรวมสถิติเหตุการณ์ความไม่สงบตั้งแต่ปี2547เป็นต้นมา พบว่าในช่วงต้นปี2554 มีระดับความรุนแรงสูงที่สุดในรอบ4ปีเมื่อเทียบเคียงกับช่วงเดียวกันตั้งแต่ปี2550เป็นต้นมา โดยตั้งแต่เดือนมกราคม 2554 เป็นต้นมาพบว่าคนร้ายได้ลงมือก่อเหตุหนักหน่วง ต่อเนื่อง และมีความโหดเหี้ยมด้วยการกระทำต่อเหยื่อที่หลากหลายเป้าหมาย
โดยหากย้อนดูสถิติความรุนแรงจะพบว่าช่วงต้นปีจะมีอัตราความหนักหน่วงของสถานการณ์มากที่สุดคือช่วงปี2547-2549เท่านั้น โดยหลังจากนั้นแนวโน้มเหตุการณ์ความรุนแรงจะค่อยๆลดระดับลง กระทั่งล่าสุดในปีนี้ทิศทางของเหตุการณ์กลับกระโดดขึ้นอย่างน่าสงสัย
ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ กล่าวต่อว่า การก่อเหตุของผู้ก่อการอย่างหนักและต่อเนื่องในช่วงนี้เป็นผลมาจากความพยายามเร่งเหตุการณ์ และชิงพื้นที่ในการสร้างข่าวสารเหตุการณ์ความไม่สงบของจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้อยู่ในความสนใจของ การประชุมองค์การการประชุมอิสลามหรือโอไอซีที่จะมีขึ้นในไม่ช้านี้ เนื่องจากบทบาทของโอไอซีจะสามารถเร่งให้เกิดการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางการเจรจาได้เร็วขึ้นเห็นได้ว่าการก่อเหตุของผู้ก่อการในช่วงที่ผ่านมาโดยมีเป้าหมายกระทำต่อเหยื่อที่สามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนความรู้สึกทางสังคมได้มาก และนำไปสู่การทำลายความน่าเชื่อถือของอำนาจรับไม่ว่าจะเป็นการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ชาวไทยพุทธ หรือแม้กระทั่งวางระเบิดย่านชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนกลางเมืองยะลา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เร่ง หรือบีบให้รัฐบาล หรือทหารตอบรับสัญญาณในการเจรจาที่ชัดเจนมากขึ้น