“สุเทพ” เชื่อเขมรเสริมกำลังด่านปอยเปต หวังเพียงเรียกร้องความสนใจให้ยูเอ็นส่งกองกำลังสันติภาพมาดูแล มั่นใจไร้ผล ยันปัญหาไทย-เขมรแค่เหตุปะทะ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 14 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึง กรณีที่ทหารไทยจับกุบสายลับชาวกัมพูชาได้ และคุมตัวไว้ที่กองทัพภาคที่ 2 ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ ทราบข่าวจากสื่อมวลชนเท่านั้น คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้เรียบร้อย เมื่อได้ผลสรุปอย่างไร ถึงจะมาชี้แจงให้ทราบ อย่างไรก็ตาม ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ก็มีอยู่ เพราะเวลามีปัญหากันที่บริเวณชายแดนระหว่างประเทศ ก็คงต้องพยายามส่งคนมาเป็นสายลับหาข่าว เพื่อให้เป็นประโยชน์กับการดำเนินการทางการทหารของเขา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่เราก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเรา และทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เราเสียเปรียบการดำเนินการทางการทหาร อย่างไรก็ตาม คงต้องแยกออกจากชาวกัมพูชาที่มาใช้แรงงานโดยสุจริต เพราะอาจทำให้เขาถูกระแรง หรือตั้งข้อรังเกียจได้
ส่วนที่กัมพูชามีการเสริมกำลังทหารมายังชายแดน บริเวณฝั่งปอยเปตจำนวนมากนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นความพยายามของกัมพูชาที่จะเรียกร้องให้สหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาสนใจพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และเรียกร้องให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพมาประจำอยู่ตลอดแนวชายแดนไทยกับกัมพูชา จึงเป็นเหตุผลที่กัมพูชาต้องปรับกำลังทหารจากจุดนั้น ไปอยู่อีกจุดหนึ่ง เพื่อให้ดูสมจริงสมจังว่าเป็นเรื่องของการต่อสู้ แต่สำหรับไทยยังถือว่าเป็นการปะทะกันเล็กน้อยเพียงแค่จุดหนึ่งเท่านั้น ซึ่งคงไม่มีผลต่อเวทีนานาชาติ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่า แนวโน้มขณะนี้ดูเหมือนองค์กรระหว่างประเทศค่อนข้างสนับสนุนแนวทางของกัมพูชา ที่หวังยกระดับให้มีคนกลางมาแก้ปัญหา นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ต้องมีมาตรการในการตัดสิน ปัญหาชายแดนที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเฉพาะระหว่างไทยกัมพูชาเท่านั้น มีข่าวเกิดขึ้นตลอด แต่ยูเอ็นก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง ดังนั้น การปฏิบัติต่อกรณีนี้ ก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน
เมื่อถามถึง กระแสข่าวที่ระบุว่า พล.ท.ฮุน มา เนท บุตรชายสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งเสริมกำลังทหารดูแลความปลอดภัยให้กับบิดาที่จะเดินทางมาเปิดถนน ใน จ.บันเตียเมียนเจย ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เวลาสมเด็จฮุนเซน เดินทางไปไหน ต้องมีการวางกำลังจำนวนมาก เพราะอยู่ในตำแหน่งมานาน และมีทั้งคนชอบ และไม่ชอบ ซึ่งไม่เกี่ยวกับฝ่ายไทย อย่าไปกังวลใจว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง หรือการสร้างสถานการณ์ขึ้น เพราะกองทัพของเรามีความพร้อมที่จะดูแลปกป้องอธิปไตย ที่สำคัญทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการอย่างชัดเจนว่า เราต้องไม่ริเริ่มยิงก่อน ทนต่อการยั่วยุ และมีหน้าที่รักษาอธิปไตยของเรา หากมีการบุกรุกเข้ามาต้องตอบโต้ป้องกัน.