สอนมวยมาร์คใช้ไม้แข็งสั่งสอนฮุนเซน

“มหาจำลอง” ด่า รัฐบาลจัดฉากยุแหย่ชาวบ้านออกทีวีร้องไห้ด่าพันธมิตรฯเป็นต้นเหตุสงคราม

วันนี้  10 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ และนายประพันธ์ คูณมี โฆษกการชุมนุมพันธมิตรฯ ร่วมแถลงข่าว โดย พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในวันที่ 11 ก.พ. พันธมิตรฯ ยังยืนยันที่จะนำเสบียงอาหาร สิ่งของ เครื่องใช้ ไปมอบให้กำลังทหารและประชาชนที่ศูนย์อพยพต่างๆ ในอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยจะนำรถคาราวานเคลื่อนออกจากพื้นที่ชุมนุมเวลา 09.00 น. ซึ่งมีรถทั้ง 4 คัน เป็นรถห้อล้อ 2 คัน และรถปิกอัพ 2 คัน รวมทั้งเงินสดอีกล้านกว่าบาท เป็นที่ได้รับจากการบริจาคของประชาชนที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ที่ได้รับบริจาคตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ.เป็นต้นมา ซึ่งเงินสดจะนำไปให้พันธมิตรฯ ในพื้นที่ไว้ซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่ทหารต้องการ และขาดแคลนอยู่ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าประชาชนไม่ต้องการให้พันธมิตรฯ นำของไปให้เพราะได้รับความเดือดร้อนจากที่พันธมิตรฯ เป็นต้นเหตุให้เกิดการปะทะระหว่างไทย – กัมพูชา จนบ้านเรือนได้รับความเสียหายนั้น ประชาชนกลุ่มนี้ที่มีความรู้สึกแบบนี้ เป็นเพราะรัฐบาลจัดฉาก

โดยให้เจ้าหน้าที่เข้าไปยุแหย่จนร้องห่มร้องไห้ และเอาสื่อของรัฐไปถ่ายทำในพื้นที่เอาไปเผยแพร่ เพื่อต้องการโยนความผิดและใส่ร้ายให้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งเป็นเรื่องบ้ากันไปใหญ่แล้วที่มีรัฐบาลไทย ที่ดำเนินการยุทธวิธีต่างๆ ผิดพลาดตลอดเวลา และพยายามที่จะออกมาปกป้องตัวเองโดยวิธีการต่างๆ หากรัฐบาลทำตามข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ เหตุการณ์เช่นนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งปัญหาความขัดแย้งของสองประเทศรัฐบาลเป็นต้นเหตุทั้งนั้น หากประชาชนที่ร้องไห้ก็ไม่ต้องมาเอาสิ่งของ เพราะมีคนเอาของไปให้ด้วยบริสุทธิ์ แต่ออกมาขัดขวาง ก็ไม่ต้องเอา แต่จะเอาไปให้ทหารและประชาชนที่เดือดร้อน

พล.ต.จำลอง กล่าวอีกว่า ขณะนี้นายฮุนเซน นายกฯกัมพูชา มีการความเหิมเกริมมาก และพยายามทีจะสร้างสถานการณ์ทุกอย่างให้เกิดสงคราม เพื่อที่จะดึงนานาชาติเข้ามา ซึ่งขอเรียกร้องไปยังนายอภิสิทธิ์ ว่าอย่าไปเดินตามเกมนายฮุนเซน ต้องตอบโต้ทุกกรณี และมีมาตรการทางการทูตที่ฉับไว ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่ต้องการให้ปัญหาไทย – กัมพูชา ไปสู่เวทีระดับโลก เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนกรณีปราสาทพระวิหาร ที่นำไปสู่การตัดสินของศาลโลก ในปี 2505 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ต้องยืนยันอย่างเด็ดขาด ว่าไม่ต้องการให้นานาชาติเข้ามายุ่งในเรื่องนี้ และสิ่งที่ต้องเร่งรีบทำคือ การใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ ทางการทูต และทางการทหาร กดดันให้กัมพูชาถอนฐานที่มั่งออกจากดินแดนไทยไปทั้งหมดทุกจุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยเสียเปรียบ เพราะกัมพูชาตั้งฐานทัพและสามารถยิงใส่ประชาชนไทยได้ตลอดเวลา จะต้องเรียกคืนดินแดนที่เป็นพื้นที่พิพาทกลับมาให้หมดทุกจุด แต่ไม่ใช่ใช้ยุทธวิธีด้วยการทำสงคราม เพราะเป็นสิ่งที่นายฮุนเซน มีความพยายามที่จะให้เกิด และข้ออ้างดึงนานาชาติเข้ามา จะต้องมาตรการโดยการสั่งสอนจะเอาจะเครื่องบินเอฟ 15 บินไปทิ้งระเบิดกัมพูชาสักที่สองที่ เป็นการสั่งสอน ให้นายฮุนเซนลดความเหิมเกริมลง จะทำให้สถานการณ์การสงครามกลายเป็นสันติได้ เพราะที่ผ่านมาไม่ว่ารัฐบาลใด ก็ปล่อยปละละเลย จนกระทั่งปัญหาที่เคยใช้วิธีสันติกลายเป็นสงครามในขณะนี้

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 10.00 น. ยังคงยืนยันที่จะนำมวลชนเคลื่อนไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า และจะไม่มีการเคลื่อนไปไหนอย่างเด็ดขาด หากมีใครเดินทางไปยังรัฐสภา แสดงว่าเป็นมือที่สามให้จับได้เลย การออกมาชุมนุมไม่ได้ออกมาเพื่อปั่นป่วน แต่มาทำหน้าที่ปกป้องดินแดน ถ้าเกิดเราจะบุกเข้าไปในสถานที่ราชการ ก็บุกเข้าทำเนียบฯ ไปตั้งนานแล้ว

นายประพันธ์ กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯ ไม่เดินทางไปยื่นฟ้องศาลปกครอง เพราะยังไม่มีความชัดเจนของ พรบ. ความมั่นคง และไม่มีมาตรการใดๆ ว่าจะสลายเพื่อขอพื้นที่คืนเมื่อไหร่ ซึ่งเป็นการประกาศ พรบ. ที่ไม่มีความสมบูรณ์ทางกฎหมาย จึงไม่มีผลมาบังคับใช้ อีกทั้ง ยังไม่มีผู้ชุมนุมได้รับความเสียหายจาก พรบ.นี้ จึงไม่มีเหตุอันควรที่จะเดินทางไปฟ้อง พรบ. รวมทั้งเป็นการประกาศออกมาลอย ๆ โดยไม่มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการคณะกรรมการรักษาความมั่งคงภายในมาปฎิบัติทำหน้าที่ตาม พรบ. อันนี้เลย