ชายแดนสะงำศรีสะเกษกลับมาค้าขายอีกครั้งหลังเสียงปืนสงบ คนกัมพูชา พ้อ สู้รบกับเขมรแดงนาน 20 กว่าปี เพิ่งสงบได้ไม่กี่ปี ยังมาเจอเหตุปะทะกับไทยอีก ระบุไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเพราะหาความสงบสุขไม่ได้
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 10 ก.พ. จากเหตุการณ์สถานการเกิดการปะทะกันที่พื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชน ด้านความไม่มั่นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานชั่วคราวอาศัย อยู่ตามสถานที่ทางราชการจัดให้ อาศัยอยู่ตามบ้านญาติพี่น้อง เป็นระยะเวลาเกือบสัปดาห์แล้ว
ขณะที่ด่านชายแดนไทยถาวรช่องสะงำ ตำบลไพรพัฒนา อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนการค้าการท่องเที่ยวการแลกเปลี่ยนสินค้า และวัฒนธรรม ระหว่างไทยกัมพูชาก่อให้มีการเปิดตลาดนัดไทยกัมพูชา ทุกวันอังคาร วันพฤหัสบดี และวันอาทิตย์ ให้ประชาชน 2 ชาติได้มีการค้าขายไปมาหาสู่กัน แลกเปลี่ยนสินค้ากัน
บรรยากาศการค้าขายที่จุดผ่านแดนช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวันตลาดนัดวันพฤหัสบดีมีประชาชนชาวกัมพูชา ขึ้นผ่านแดนนำสินค้าอาทิเช่นขี้ไต้หรือกระบอง ผักหวาน นำมาขายที่ฝั่งไทย ประชาชนกัมพูชาแลกเปลี่ยนเงินตรา ซื้อสินค้าสำหรับการอุปโภคบริโภค อาทิ พืช ผัก ผลไม้ ประกอบด้วยส้ม มะพร้าว ข้าวโพด สับปะรด เนื้อหมู เนื้อวัว ปลาน้ำจืดและอาหารทะเล วันนี้มีประชาชนจากประเทศกัมพูชาขึ้นมาแดนไทยประมาณ 250-300 คน นับเป็นวันแรกที่ประชาชนชาวกัมพูชาผ่านพรมแดนจำนวนมากหลังสิ้นเสียงปืนปะทะ
นายเจีย ซัน อายุ 56 ปี ชาวบ้านโอรกะยูง ตำบลตะเปียงปราสาท อำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ไม่อยากเห็นการใช้กำลังประหัตประหารกันเลย ประชาชนเดือดร้อนมาก ๆ บางคนต้องอพยพทิ้งถิ่นฐานไปอาศัยอยู่ที่พื้นที่ไกล ๆ ห่างสมรภูมิการสู้รบ ลูกเล็กเด็กแดงร้องกระจองอแง อดตาหลับขับตานอนต้องระแวดระวังภัยตลอดเวลาไม่มีความสุขเลย ประชาชนคนเขมรเองเกิดมาอยู่กับภัยสงครามการสู้รบกับเขมรแดงมานาน ตั้งแต่ปี 2518 เกิดการสู้รบกันมายาวนานประมาณ 2540 เสียงปืนก็สงบลง แค่ไม่กี่ปีเท่านั้นเอง แต่กลับมีการใช้กำลังการปะทะระหว่างไทยกัมพูชาอีก ขอวิงวอนอย่าให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีกเลย