นายกฯแจงสภาปมขัดแย้งเขมร ยันไม่กระหายสงคราม-อ่อนแอ ฟันธง “ฮุน เซน” ต้องการเคลียร์พื้นที่ก่อน
วันนี้ 10 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าขณะนี้ต้องยอมรับว่ามีคนวิจารณ์การทำหน้าที่ของตนต่อกรณีดังกล่าว ทั้งกระหายสงคราม หรือเป็นผู้นำอ่อนแอ ไม่คิดสู้ ตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นทั้ง 2 แบบ เพราะขณะนี้รัฐบาลพยายามใช้กลไกที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา อาทิ การต่อสายคุยกับนายบัน คีมุน เลขาธิการยูเอ็น พร้อมระบุว่าหากจะคลายชนวนปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาได้ ก็ต้องแขวนและพักการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไว้ก่อน แล้วปล่อยให้ทั้ง 2 ประเทศใช้กลไกของเอ็มโอยู 43 และ เจบีซีแก้ไข ซึ่งนายบัน คีมุนก็รับปากว่าจะไปคุยกับยูเนสโก
นายกฯ ย้ำอีกว่า การปะทะที่เกิดขึ้นนั้นฟันธงได้อย่างเดียวคือเรื่องการขึ้นทะเบียนมรดกโลก
และสมเด็จฮุน เซน ต้องการเข้าไปบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร หลังจากเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่โดยรอบในการประชุมกรรมการมรดกโลกเดือนมิ.ย. ดังนั้นการสร้างเหตุเพื่อเคลียร์พื้นที่ ซึ่งสิ่งที่พิสูจน์คือ เมื่อปลายปี 2553 ตนได้พบสมเด็จฮุน เซน 4 ครั้ง ซึ่งสิ่งที่สมเด็จฮุน เซนต้องการอย่างเดียวคือ พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร และพยายามย้ำคืออยากให้พื้นที่กลับมาเป็นเหมือนอย่างก่อนเดือนกรกฎาคม 2551 ซึ่งตนได้ย้ำว่าเป็นไปไม่ได้ หากจะให้กลับคืนเหมือนเดิมต้องให้พื้นที่กลับไปเมื่อปี 2543 ดังนั้นสมเด็จฮุน เซน จึงพยายามเคลียร์พื้นที่และต้องการให้นำทหารออกจากพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งตนยืนยันว่าไม่สามารถทำได้
“การปะทะตามแนวชายแดนครั้งนี้ไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก เพราะเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ตอนที่ผมไปร่วมงานศพพลทหารที่ จ.ศรีสะเกษ มีเหตุปะทะที่ภูมะเขือ ขณะนั้นผมไม่โทษว่านายกฯ หรือ รมว.ต่างประเทศขณะนั้นนำไปสู่การปะทะ หรือเกิดความสูญเสีย และเช่นเดียวกับเดือนเมษายนปี 2552 ก็เกิดปะทะอีก” นายกฯ ชี้แจง
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว