เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล กรรมการที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
เขียนบทความเรื่อง "กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญกับความเป็นประชาธิปไตย" โดยระบุว่า กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ออกรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ ว่าหลังจากแก้รัฐธรรมนูญเสร็จจะยุบสภา ซึ่งหากดูตามกฎหมายก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ชอบธรรม เพราะการประกาศยุบสภาเป็นอำนาจโดยชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ การที่นายกฯส่งสัญญาณในเรื่องการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ โดยให้ กกต.ดำเนินการออกระเบียบเพื่อดำเนินการเลือกตั้งได้โดยไม่ต้องอาศัยกลไกของรัฐสภา ที่จริงหากนายกฯไม่ประกาศจะยุบสภา อำนาจการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็จะถูกดำเนินการโดยหน้าที่ของรัฐสภาตามขั้นตอนปกติในระยะเวลาต่อเนื่องกันอยู่แล้ว แต่การประกาศยุบสภาหลายต่อหลายครั้งก็คล้ายกับเป็นการเร่งรัดให้ กกต.เป็นผู้ออกระเบียบกำหนดการเลือกตั้งโดยข้ามขั้นตอนของระบบรัฐสภา
"การที่นายกฯทำเช่นนี้จะเป็นการโยนหินถามทาง หรือคิดจะทำจริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ใหญ่มากถึงขนาดที่กล่าวได้ว่านายกรัฐมนตรีกำลังจะเป็นผู้ทำลายหลักการของระบอบประชาธิปไตยด้วยตนเอง ด้วยการยืมมือ กกต.ที่มีเพียง 5 คน มาจัดทำระเบียบในเรื่องนี้แทนสมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นองค์กรที่ชอบธรรม เพราะรัฐสภามีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการตรากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญในส่วนที่เกี่ยวข้อง หลังจากการลงมติวาระ 3 ในท้ายที่สุด" นายสมศักดิ์ระบุ
นายสมศักดิ์ระบุว่า เหมือนใช้เสียงส่วนน้อยเข้ามาวางระเบียบเหนือเสียงส่วนใหญ่
โดยละเลยเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตยแทนที่จะให้สภาเข้ามาวางแนวทางกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญโดยชอบธรรม กลับโยนหินเตรียมการให้ กกต.เร่งรัดดำเนินการไว้ล่วงหน้า ใช้การตัดสินใจจากคนเพียง 5 คน แทนผู้แทนทั้งสภา เชื่อว่าจะมีคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย อาจทำให้สังคมเกิดความรู้สึกว่านายกฯขาดความเชื่อมั่นและไม่เคารพต่อระบบรัฐสภา อีกทั้ง กกต.เองก็ถูกสังคมมองด้วยสายตาที่เคลือบแคลงมาโดยตลอด ว่ามีความสัมพันธ์อันดีกับพรรคการเมืองบางพรรคไม่น้อย