มาร์ควอนไทยสามัคคีให้กำลังใจทหาร

 

คมชัดลึก :นายกรับมนตรีย้ำเสียใจเหตุการณ์ปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันรักษาอธิปไตยลั่นหากคิดที่จะทำให้ไทยเสียอธิปไตยไม่ใช่แค่ขับไล่ออกจากรัฐบาลต้องไล่ออกนอกประเทศด้วย พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพ

การชุมนุมของพันธมิตร ที่ยกระดับเป้าหมายขับไล่รัฐบาลนั้น ตนเองไม่แปลกใจ แต่อยากย้ำ ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลทุกด้าน เปิดใจกว้าง
 
โดยยืนยันว่า รัฐาลนี้เป็นรัฐบาลแรกที่คัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา และไม่รับแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน พร้อมย้ำว่าเอ็มโอยู ปี 2543 เป็นประโยชน์ โดยหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งหยุดได้เพราะมีเอ็มโอยู หากไม่มีเอ็มโอยู ตลอดแนวชายแดนจะตึงเครียด และปะทะกันตลอดเวลา


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา

ว่าขณะนี้การแก้ไขปัญหาอยู่ในระดับทวิภาคี ยังไม่ถึงขั้นต้องใช้เวทีอาเซียนเพื่อหาข้อยุติ แต่หากสมาชิกในอาเซียนเป็นห่วงเรื่องดังกล่าวก็สามารถที่จะแจ้งมาได้ ซึ่งตนพร้อมจะรับฟังข้อมูล อย่างไรก็ตามการเจรจาขณะนี้ตนมองว่ายังเป็นหน้าที่ที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของทั้ง 2 ประเทศหารือตามกรอบของเจบีซี

 “ส่วนจะให้ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศคุยกันหรือไม่ ผมว่าคงต้องดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตามขณะนี้ผมคิดว่าสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย และอยากย้ำว่าขณะนี้ปัญหาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกกลายเป็นปัญหาที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ดังนั้นเราต้องเดินหน้าคัดค้าน จนถึงขณะนี้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะทำให้ทั่วโลกเข้าใจความเป็นจริง ที่ไทยคัดค้านมาโดยตลอด ” นายกฯ กล่าว

 ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะระหว่างชายแดนสองประเทศได้อีก

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูอีกทีว่าจะทำอย่างไร ส่วนที่ประเทศกัมพูชาขอให้มีการถอนทหาร ตนยืนยันว่าทำไม่ได้ เพราะต้องรักษาสิทธิ์ การตรึงกำลังในพื้นที่พิพาท แม้จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะ ก็ต้องหาวิธีประสานงาน
 
 เมื่อถามว่าขณะนี้ประเทศกัมพูชาได้ทำหนังสือร้องยูเอ็นไปแล้ว

นายกฯ กล่าวว่าตนยืนยันว่าฝ่ายไทยไม่ได้ดำเนินการก่อน แต่สิ่งที่ทำทั้งหมดเป็นการปกป้องกและตอบโต้ไปตามเป้าหมาย ส่วนการคงเอ็มโอยู 43 ไว้ทำให้ปัญหาการปะทะน้อยลง ซึ่งหากไม่มีก็เชื่อว่าจะมีการปะทะกันตลอดแนวและตลอดเวลา เมื่อถามว่าเอ็มโอยู 43 ไม่มีมีกรอบระยะเวลาที่ต้องทำให้แล้วเสร็จ ทำให้ปัญหาการปะทะยังคงมีอยู่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ดำเนินการ เพราะเราคงไม่สามารถบังคับให้จบ เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ยอมรับในผลที่เห็นต่าง ซึ่งในต่างประเทศก็เป็นแบบนี้ ดังนั้นต้องค่อยๆ ดำเนินการ และตนเชื่อมั่นว่าเอ็มโอยู 43 เป็นสิ่งที่รั้งให้ 2 ประเทศไม่ใช้กำลังต่อกัน

 “การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นสิ่งที่เราย้ำว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ประเทศกัมพูชาขอขึ้นเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่มีปัญหาเกิดขึ้น ผมเชื่อว่าวันนี้ทางยูเอ็นหรือกรรมการมรดกโลกเห็นชัดเจนว่าการให้ขึ้นทะเบียนดีงกล่าวนำไปสู่ความตึงเครียด และผมคาดว่าหากเขาหยุดกระบวนการตรงนี้ได้ จะทำให้การแก้ปัญหาง่าย ไม่เช่นนั้นกัมพูชาหรือต่างชาติที่จะเข้ามาตรงนี้ อาจจะใช้แรงกดดันทำให้วุ่นวายและกระทำหลายอย่างที่เป็นการละเมิดเอ็มโอยู” นายกฯ กล่าว

 เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวกดดันของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มีฉันทามติต้องการให้ ครม.ลาออกทั้งคณะ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องฉันทามติ ก็คนอยู่ตรงนั้น เขาก็เห็นด้วยกันอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่ไปอยู่ด้วยกัน ซึ่งการเรียกร้องให้ตนลาออกก็เป็นสิทธิ์ แต่ตนก็แปลกใจทำไมถึงต้องขับไล่รัฐบาลแรกที่คัดค้านเรื่องการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และเป็นรัฐบาลแรกที่แจ้งกับกัมพูชาว่าไม่เอาแผนที่ 1:2 แสนตร.กม. เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหากลุ่มผู้ชุมนุม นายกฯ กล่าวว่า ต้องเดินหน้าให้ข้อมูล ส่วนการประสานหรือเจรจากับแกนนำนั้นมีความคืบหน้าโดยคนของรัฐบาลก็พูดคุยกับแกนนำพันธมิตร แต่ขณะนี้ความเห็นยังไม่ตรงกัน แต่จะไปห้ามให้กลุ่มผู้ชุมนุมตัดสินใจเกี่ยวกับเป้าหมายชุมนุมคงไม่ได้ และตนขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมรับรับฟังข้อมูลทุกด้าน รัฐบาลก็พร้อมที่จะบอกข้อมูลข้อเท็จจริง แต่ตนไม่เข้าใจว่าการปฏิเสธการเจรจานั้นมีวัตถุประสงค์ใด นอกจากเป็นเรื่องทางการเมือง

 “ผมจริงใจจะคุย แต่เขาไม่ยอมคุย ผมเห็นว่าบรรดาผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการหลายคนที่ให้ข้อมูลก็ยินดี ที่จะคุย ผมก็เชิญมาคุยและพยายามจะคุยต่อ ส่วนประเด็นดีเบตนั้น ที่ผ่านมาก็เคยมี หากมาผมก็ยินดี อย่างที่บอก ผมก็แปลกใจเพราะขณะนี้มีการกล่าวหาอย่างรุนแรง เป็นเรื่องเท็จหลายเรื่อง” นายกฯ กล่าว  เมื่อถามว่ากระบวนการยุติการชุมนุมที่ถึงขั้นสลายเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนได้หารือกับทาง ผบ.ตร. ยังคงต้องพบยายามทำให้ทุกอย่างอยู่ในกรอบของกฎหมายและขอเรียกร้องผู้ชุมนุมเคารพกฎหมาย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์