คมชัดลึก :นายก"อภิสิทธิ์"วอนคนไทยเป็นหนึ่งเดียว ยกเพลงชาติ“ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด”ลั่นไม่รุกรานใครยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่ หนุนกองทัพตอบโต้ตามสม ควร ชี้กัมพูชายิงพลเรือนไทย สั่งกต.ชี้แจงนานาชาติไทยถูกล่วงล้ำก่อน พร้อมให้เขมรเดินตามเอ็มโอยูและเจบีซี จี้ คกก.มรดกโลกหยุดขึ้นทะเบียน ชี้เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อนไม่ควรดำเนินการอะไรหวั่นสูญเสีย ขอแรงผู้ว่าฯดูแลประชาชนในพื้นที่ นายกฯ กล่าวว่า ขอเรียนให้ประชาชนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลและกองทัพไทยถือหลักปฏิบัติชัดเจน นายกฯ กล่าวอีกว่า ประการที่สองในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็มีการออกแถลงการณ์ยืนยันจุดยืนนี้ให้ชาวโลกและประชาคมโลกได้รับทราบ “นั่นก็หมายถึงว่าสมควรที่จะมีการระงับในเรื่องของการที่จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการยืนยันสิ่งที่ทางฝ่ายไทยเคยเตือนคณะกรรมการมรดกโลกมาโดยตลอด” นายกฯ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดแถลงผลการประชุมที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า โดยไม่ได้เปิดโอกาสให้มีการซักถามแต่อย่างใดว่า เหตุการณ์ปะทะกันวันที่ 4 ก.พ.บริเวณชายแดน ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 15.00-18.00 น. รัฐบาลได้รับทราบตั้งแต่เกิดเหตุขึ้น โดยกองทัพได้ดำเนินการ ปฎิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศโดยการตอบโต้กลับไป กระทั่งเวลา 18.00 น.เหตุการณ์ถึงได้สงบลง รายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมด เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา ผบ.ทบ. และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกได้แถลงไปเรียบร้อยแล้ว
คือเราไม่ไปรุกรานใครแต่เราจะปกป้องอธิปไตยของเราให้ถึงที่สุด เพราะฉะนั้นปฏิบัติการที่ดำเนินการเมื่อวานนี้รัฐบาลก็ให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ และจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในการกระทำสิ่งที่มีความจำเป็นพอควรแก่เหตุในการปกป้องอธิปไตยของเรา
แล้วก็จะมีการชี้แจงต่อเอกอัคราชทูตของประเทศที่มีบทบาทสำคัญทั้งในส่วนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะกรรมการมรดกโลกและประเทศอื่นๆเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการโจมตีและล่วงล้ำอธิปไตยของไทยก่อนจึงได้มีการตอบโต้ไป นอกจากนั้นในส่วนของมรดกโลกเองทางไทยก็จะได้มีการชี้ให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่าพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารนั้นเป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง จึงไม่สมควรที่จะมีการดำเนินอะไรที่จะเป็นการเพิ่มเติมความตึงเครียดและนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียในบริเวณดังกล่าว
มาร์คสั่งแจงทั่วโลกไทยถูกรุกล้ำก่อน
นายกรัฐมนตรีของไทย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันกระทรวงการต่างประเทศก็มีการประสานงานกับกัมพูชา
ยืนยันว่าปัญหาทั้งหมดอยู่ในวิสัยที่จะแก้ไขได้ตามข้อตกลงและตามกลไกของเอ็มโอยูและเจบีซี และเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าไม่มีการล่วงละเมิดในเรื่องของเอ็มโอยูและเจบีซี เพราะกระทรวงการต่างประเทศก็ยืนยันว่าจะแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีและใช้กระบวนการกลไกตามหลักของสากล
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า ประการที่สามตนได้กำชับนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ให้ไปกำชับไปยังพื้นที่
โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกี่ยวข้องในการที่จะดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่อพยพอออกจากที่อยู่อาศัยเพื่อความปลอดภัย และก็ขอเรียนว่าในหลักปฏิบัติที่ได้ทำอยู่ในขณะนี้ก็คือทางกองทัพมีแผนรองรับสถานการณ์อยู่แล้ว และจะประสานได้กับฝ่ายปกครองในการที่จะดูแลความปลอดภัยของประชาชน
นายกฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็ต้องเรียนว่าเรามีความเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับราษฎรหรือประชาชนของเรา นั่นเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องตอบโต้
เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการโจมตีเป้าหมายซึ่งเป็นพลเรือน ซึ่งฝ่ายไทยไม่ได้ทำเลย ฝายไทยได้ทำก็คือได้ตอบโต้ไปยังจุดหมายที่เป็นจุดหมายทางทหาร แต่ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในฝั่งกัมพูชาที่ขณะนี้ก็มีรายงานว่ามีหลายสิบคนนั้นก็เป็นข้อเท็จจริง แต่ว่าฝ่ายไทยนั้นไม่ได้มีการโจมตีไปยังเป้าหมายที่เป็นพลเรือนเลย มีแต่การตอบโต้ไปยังเป้าหมายทางทหารเท่านั้น นี่คือข้อเท็จจริงที่อยากจะเรียนทั้งหมดและการดำเนินการในส่วนของรัฐบาลและกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศ รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“เวลานี้เป็นเวลาที่ผมอยากจะเห็นพี่น้องประชาชนคนไทยมีความสมัครสามัคคีรวมใจเป็นหนึ่งในการสนับสนุนกองทัพและเจ้าหน้าที่ของเราในการปกป้องอธิปไตยและก็ขอให้ยึดตามหลักนโยบาย ซึ่งผมคิดว่าอยู่ในใจของเราทุกคนอยู่แล้ว เพราะอยู่ในเพลงชาติของเรา รักสามัคคี ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด 3 วรรคเท่านี้แหละครับ ตอนนี้ที่ผมคิดว่าพี่น้องคนไทยได้ยึดถือตรงนี้ก็จะทำให้เราสามารถที่จะเดินหน้าในการที่จะดูแลสถานการณ์ปกป้องอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ เรียบร้อยและราบรื่น” นายกฯ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า ให้ความั่นใจครับว่าทางรัฐบาลได้เอาใจใส่ต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดและพร้อมสนับสนุนบุคลากร
ไม่ว่าจะเป็นกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครองในทุกวิถีทางที่จะดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย ก็ขอเรียนให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจว่าหน่วยงานของรัฐนั้นมีความเป็นเอกภาพในทางความคิดและในแนวปฏิบัติและทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการที่จะดูแลผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนจำนวนมากที่เป็นกำลังใจและห่วงใยกองทัพและประชาชนตลอดบริเวณแนวชายแดน