มาร์ค ยันจำเป็นต้องตอบโต้

"มาร์ค" ยันไทยจำเป็นต้องตอบโต้ปกป้องอธิปไตย พร้อมสนับสนุนกองทัพเต็มที่ สั่ง "กษิต" แจงมิตรประเทศ  

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เรียก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.การต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 

ภายหลังการหารือนายกรัฐมนตรี แถลงว่า รัฐบาลและกองทัพไทยถือหลักปฏิบัติชัดเจนคือเราไม่ไปรุกรานใคร แต่เราจะปกป้องอธิปไตยของเราให้ถึงที่สุด พร้อมให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่และต่อเนื่องในการกระทำสิ่งที่มีความจำเป็นพอควรแก่เหตุในการที่จะปกป้องอธิปไตยของเรา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศได้ออกแถลงการณ์ยืนยันจุดยืนนี้ให้ชาวโลก ประชาคมโลกได้รับทราบและจะมีการชี้แจงต่อเอกอัครราชทูตของประเทศที่มีบทบาทสำคัญทั้งในส่วนของมนตรีความมั่นคง สหประชาชาติ มรดกโลก และประเทศอื่น ๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากปัญหาที่มีการโจมตีและล่วงล้ำอธิปไตยของไทยก่อน จึงได้มีการตอบโต้ไป เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เห็นว่าพื้นที่ปราสาทพระวิหารเป็นพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง ไม่สมควรที่จะมีการดำเนินการอะไรที่จะเป็นการเพิ่มเติมความตึงเครียดและนำไปสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสีย ทั้งนี้จึงเห็นสมควรที่จะมีการระงับในเรื่องการดำเนินการตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไว้ อย่างไรก็ตามได้กำชับนายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย และ ผวจ.ที่เกี่ยวข้องในการดูแลความเป็นอยู่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วย

"รัฐบาลเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องตอบโต้ เพราะเห็นได้ชัดว่าโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน  ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้ไปยังเป้าหมายที่ทหารเท่านั้น ไม่ได้โจมตีไปยังเป้าหมายที่เป็นพลเรือนเลย   เวลานี้เป็นเวลาที่ผมอยากเห็นประชาชนคนไทยมีความสมัครสมานสามัคคี รวมใจเป็นหนึ่ง ในการสนับสนุนกองทัพ และเจ้าหน้าที่ของเราในการปกป้องอธิปไตย  ขอให้ยึดตามหลักที่อยู่ในใจของคนไทยทุกคนอยู่แล้ว เพราะอยู่ในเพลงชาติของเรา รักสามัคคี ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด 3  วรรคเท่านี้  เราสามารถเดินหน้าในการดูแลสถานการณ์ ปกป้องอธิปไตยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียบร้อย ราบรื่น" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า รัฐบาลยืนยันที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร็วและยืนยันในการปกป้องอธิปไตยดินแดน และชีวิตของประชาชน  ไม่มีนโยบายรุกรานประเทศใด หรือ ทำอะไรในลักษณะที่กดดัน ยกเว้นกรณีที่เราถูกรุกรานหรือถูกโจมตีเราก็จำเป็นจะต้องตอบโต้ ซึ่งการตอบโต้เป็นไปในลักษณะที่จำกัด และมอบหมายให้กองทัพตอบโต้เท่านั้น  อย่างไรก็ตามทางผบ.ทบ.ได้ยืนยันว่ากองทัพพร้อมที่จะปกป้องดูแลประชาชน และพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัย ซึ่งณะนี้อยู่ในสภาวะที่สามารถพูดคุยกับทางการกัมพูชาได้ในระดับหนึ่งแล้วและสถานการณ์กำลังคลี่คลายแต่ยังคงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรียังมอบหมายให้ นายชวรัตน์ ชาญวีระกูล รมว.มหาดไทย และ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ลงไปในพื้นที่เพื่อพูดคุย และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ 

"รัฐบาลไทยยังมั่นใจความสัมพันธ์พื้นฐานของไทยและกัมพูชา แม้ว่าในบางพื้นที่จะมีปัญหาบ้างแต่ในภาพรวมไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และยืนยันว่าเรายังทำงานร่วมกันได้ซึ่งหวังว่ากัมพูชาจะร่วมมือกับไทยในการแก้ไขปัญหา" นายปณิธาน กล่าว



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์