กษิตย้ำไทยตอบโต้เท่าที่จำเป็น

"กษิต" เชิญทูต 16 ประเทศแจงเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ย้ำไทยตอบโต้เท่าที่จำเป็น ยูเนสโกวอน 2 ประเทศใช้ความอดกลั้น แนะผู้นำสายตรงถึงกันลดตึงเครียดในพื้นที่

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 ก.พ. ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศได้เชิญเอกอัครราชทูตประเทศอาเซียนและประเทศสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประเทศประธานคณะกรรมการมรดกโลก รวม 16 ประเทศ เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชาบริเวณแนวชายแดน

โดยนายกษิต ได้ย้ำแนวทางปฏิบัติของฝ่ายไทยได้ใช้ความอดกลั้นจนถึงที่สุดและการตอบโต้ไปสู่เป้าหมายพื้นที่ทางทหารเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับพลเรือน และขณะนี้กระทรวงมหาดไทยกำลังให้ความช่วยเหลืออพยพประชาชนกว่า 6,000 กว่าคน 

"นายกษิต ยังย้ำด้วยว่าฝ่ายไทยตอบโต้เท่าที่จำเป็นในลักษณะสมน้ำสมเนื้อ เพื่อป้องกันตัวเองด้วยความอดกลั้นอย่างสูงและไม่อยากให้เหตุการณ์บานปลายจนกระทบความสัมพันธ์โดยภาพรวม และพร้อมใช้ทุกช่องทางเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกันเพื่อคลี่คลายปัญหาโดยเร็ว  และได้ทำหนังสือถึงประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและท่าทีของประเทศไทย" นายธานี กล่าวและว่า ในวันที่ 8 ก.พ.นี้รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนจะเดินทางมาประเทศไทยและกัมพูชาเพื่อรับฟังข้อเท็จจริงและข้อมูลต่าง ๆ ไม่ใช่มาทำหน้าที่คนกลางหรือผู้ไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด" นายธานี กล่าว   

ขณะที่ทางองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ( ยูเนสโก) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วงต่อเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารของไทยและกัมพูชา ส่งผลให้มีการสูญเสียชีวิตและเกิดความเสียหายต่อตัวปราสาท สืบเนื่องจากกรณีความขัดแย้งการนำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

โดยนางอิริน่า โบโกวา เลขาธิการยูเนสโก ระบุว่า รู้สึกกังวลใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น เพื่อเห็นแก่ความปลอดภัยของตัวปราสาทพระวิหารอันเป็นโบราณสถานเก่าแก่ รวมทั้งขอให้มีการเปิดช่องทางการติดต่อแบบสายตรงระหว่างผู้มีอำนาจของทั้งสองประเทศเพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่