นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง
กล่าวเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึงกรณีมีนักวิชาการระบุคดีคนไทยรุกล้ำเขตแดนกัมพูชา เป็นคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่พิพาท ศาลกัมพูชาไม่มีสิทธิที่จะตัดสินพิพากษาคดีนี้ว่า ตนไม่สามารถวิจารณ์เรื่องนี้ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลไทยจะหยิบยกประเด็นนี้ไปต่อสู้คดีได้หรือไม่ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนไม่ทราบและไม่เคยได้ฟังประเด็นนี้มาก่อน
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศยกระดับการชุมนุมและขีดเส้นตายให้รัฐบาลดำเนินการนำตัวคนไทยกลับมาโดยไม่มีมลทินภายใน 3 วันนั้น นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องแปลก ต้องถามว่าผู้ชุมนุมเขาโกรธใคร โกรธกัมพูชาที่ไม่ยอมปล่อยคนไทย แล้วมาขับไล่รัฐบาลไทย หรือว่ามาชุมนุมเพราะว่าไม่พอใจที่รัฐบาลไม่ช่วยเหลือ ยืนยันว่ารัฐบาลก็ดำเนินการมาตามลำดับขั้นตอน ทุกคนทุกฝ่ายก็ทราบกันดีอยู่แล้ว การประกาศยกระดับการชุมนุมนั้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับใคร ในทางตรงกันข้ามหากมาปรึกษาหารือกันว่า จะช่วยกันอย่างไรให้เหตุการณ์คลี่คลาย คนไทยทั้ง 2 คนได้กลับบ้านน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมแผนรักษาความปลอดภัยทำเนียบรัฐบาล
และผลักดันผุ้ชมุนนโดยการใช้แก๊สน้ำตา เป็นการส่งสัญญาณอะไรไปถึงกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร เป็นหน้าที่ของ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในฐานะเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีหน้าที่รักษาทำเนียบรัฐบาลไม่ให้ใครเข้ามาบุกรุกจึงต้องให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อม ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตนได้ย้ำกับทาง ผบช.น.ว่า แม้จะมีภาระที่กำลังเจ้าหน้าที่จะต้องมาดูแลรักษาทำเนียบ รัฐสภา กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูต แต่งานหลักจะต้องทำต่อไป ไม่ให้เสียหาย ซึ่งตนเห็นใจเพราะกำลังเจ้าหน้าที่มีจำนวนจำกัด