นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์
ถึงกรณีนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ได้ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ โดยอ้างถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ถือสัญชาติอังกฤษ ซึ่งจะกระทบต่อคุณสมบัติการเป็น ส.ส.หรือไม่ เพราะต้องถือสัญชาติไทย โดยการเกิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ว่า พ.ร.บ.สัญชาติ ผู้ที่เกิดในประเทศใดก็จะได้รับสัญชาติโดยการเกิดของประเทศนั้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์เกิดในประเทศอังกฤษก็จะได้รับสัญชาตินั้นโดยการเกิด แต่เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วตาม พ.ร.บ.สัญชาติ สามารถให้บุคคลนั้นเลือกได้ว่าจะถือสัญชาติในประเทศที่เกิดหรือจะถือสัญชาติตามบิดาและมารดา กรณีนี้นายอภิสิทธิ์จะถือสัญชาติอังกฤษหรือจะถือสัญชาติไทยตามบิดามารดาก็ได้ เพราะต้องถือสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งตามกฎหมาย และเป็นไปได้ที่นายอภิสิทธิ์จะถือสัญชาติไทยตามบิดามารดาในภายหลังก่อนจะมาลงสมัคร ส.ส.
นางสดศรีกล่าวอีกว่า กรณีของนายอภิสิทธิ์ ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. จะต้องถือสัญชาติไทยเท่านั้น
ซึ่งเชื่อว่ากรณีดังกล่าวไม่น่ามีปัญหาในคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ของนายอภิสิทธิ์ เนื่องจากก่อนจะลงสมัครรับเลือกตั้ง กกต.จะต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครก่อนลงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม หากเกิดมีผู้ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ ก็คงต้องมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและกฎหมายอีกครั้ง เมื่อลงสมัครส.ส.ได้ก็คงไม่น่ามีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ ส.ส. ซึ่งตามรัฐธรรมนูญจะกำหนดไว้ในกรณี ส.ส.และส.ว.จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้จะต้องมีสัญชาติไทย