แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ “สนธิ ลิ้มทองกุล” อ้าง “หลวงตาบัว” หนุนทวงแผ่นดิน อย่าให้ใครขโมย
วันนี้ 31 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที ตอนหนึ่ง ว่า วันนี้จะขอพูดเรื่องเดียว สิ่งที่ตนจะพูดนั้น จะตรงกับการที่เรามาต่อสู้กันนี้วันนี้ ตนจะพูดถึงความบริสุทธิ์ ไม่พูดถึงเรื่องโสมม อาจารย์ของตนคือหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน ซึ่งหลวงตาบัวละสังขารไปเมื่อเช้า เวลา 03.53 น. ตนได้ไปกราบแทบเท้าขอขมาท่านเมื่อ 15 ชั่วโมง ก่อนท่านละสังขารไป สิ่งที่ตนจะเล่าไม่มีในหนังสือ ท่านพูดกับตนว่า สนธิ ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าเถิดว่า บาปมี บุญมี นรกมี สวรรค์มี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หลวงตาแก่มากแล้ว ห่วงแต่ลูกหลานไทย ตนใจหายที่ท่านสิ้น แต่ตนไม่ร้องไห้ ถ้าเราเป็นลูกศิษย์ตถาคตเราต้องเข้าใจหลักในเรื่องนี้ ท่านอายุ 98 ปี มีคุณประการต่อสังคมไทยมากกว่าพวกระยำที่นั่งอยู่ในทำเนียบรัฐบาลทุกยุคทุกสมัย
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ครั้งหลังสุดก่อนที่ท่านจะป่วย ตนไปกราบท่าน ปกติท่านจะไม่พูดเรื่องการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น
นอกจากเวลาอยู่สองต่อสองกับตน หรือมีเจ้หมวยโยมอุปฐากอีกคน ท่านบอกคนที่จะต้องถูกตัดคอ และลงนรกนั้นมีอยู่ 5 คน คือ 3 คน ที่พยายามจะรวมเงินคลังหลวง ตนบอกตอนนี้ยังเหลืออีก 2 คน แต่ท่านไม่พูดอะไร คนที่ตั้งใจทำงานให้ชาติบ้านเมืองจะถูกคนเข้าใจผิด ตอนที่ท่านระดมเงินเพื่อมาซื้อทองคำเข้าคลังหลวง มีการตำหนิติเตียนว่า เป็นพระมายุ่งไรกับการเมือง ขอยืนยันว่า พระสงฆ์องค์นี้มือไม่เคยแตะเงินแม้แต่ครั้งเดียว โรงพยาบาลอุดรธานี และโรงพยาบาลอื่น ๆ พึ่งพากระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ ก็ต้องมาขอเงินท่าน พระสงฆ์องค์แก่ ๆ รูปหนึ่งระดมทองคำมาตั้งแต่ปี 2540 ใครเอาเงินไปถวายท่านให้เอาทองคำดีกว่า ท่านรู้ได้อย่างไรว่าทองคำจะขึ้นบาทละหลายหมื่น ทองคำในคลังหลวงเป็นเสาค้ำจุนเมื่อไอเอ็มเอฟเข้ามา เรื่องนี้ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ฟังเอาไว้ เพราะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปกล่าวหาท่าน