เมื่อวันที่ 29 ม.ค. เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา
กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานเปิดการสัมมนาโดยมีข้าราชการตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, ปทุมธานี, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ปราจีน บุรี, ตราด, สระแก้ว, นครราชสีมา, ยะลา ปัตตานีและนราธิวาส จำนวน 705 นาย เข้าร่วมสัมมนาว่า เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎร ได้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่...) พ.ศ. ...และร่าง พ.ร.บ.เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง (ฉบับที่...) พ.ศ. ...เรียบร้อยแล้วซึ่งเป็นการปรับขึ้นค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้กับข้าราชการตำรวจชั้นประทวนโดยเฉพาะ ทั้งนี้ตนได้ส่งเรื่องให้กับประธานวุฒิสภาไปเมื่อวันที่ 27 ม.ค. เพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาเร่งพิจารณาผ่านกฎหมายทั้ง 2 ฉบับโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ตำรวจถือ ว่ามีภารกิจสำคัญนอกจากจะป้องกัน รักษาความสงบเรียบร้อยและรักษาความมั่นคงของประเทศ ตำรวจยังถือว่าเป็นผู้ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนจึงถือว่ามีส่วนสำคัญในการปลูกฝังประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้กับประชาชนในทุกระดับจึงขอฝากให้ทุกคนช่วยกันปกป้องสถาบันสูงสุดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายของการสัมมนา ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ผู้สัมมนาได้ซักถาม ปรากฏว่ามีตำรวจท่านหนึ่งลุกขึ้นสอบถามว่า ตั้งใจจะมาถามนายกฯ
แต่นายกฯ อยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตนคาใจว่าไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนหรือนายกรัฐมนตรีคนไหนรับตำแหน่งก็บอกว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาหนี้สินครู หนี้สินเกษตรกรแต่ไม่เห็นมีนายกรัฐมนตรีคนไหนที่จะบอกว่าจะแก้ปัญหาหนี้สินให้ตำรวจ จึงอยากให้รัฐบาลและนักวิชาการมาแก้ปัญหาตรงนี้เพราะตนมั่นใจว่าถ้าตำรวจปลอดหนี้ บ้านเมืองก็จะเข้าสู่ความสงบสุขเพราะมีขวัญและกำลังใจทำงานมากขึ้นผู้สื่อข่าวรายงานคำถามดังกล่าวทำให้บรรดานายตำรวจชั้นผู้น้อยปรบมือแสดงความเห็นด้วยลั่นห้องประชุม ทำให้บรรดานายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มีสีหน้าเคร่งเครียดนอกจากนี้ตัวแทนตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แสดงความน้อยใจที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากตำรวจชั้นผู้ใหญ่รวมถึงที่ผ่านมาทำเรื่องขอย้ายออกนอกพื้นที่หลายครั้งแต่ถูกปฏิเสธ จนต้องสมัครใจอยู่ในพื้นที่ต่อไปทั้งที่มีสิทธิที่จะขอย้ายได้เพราะอยู่ในพื้นที่มาหลายปีส่วนเพื่อนตำรวจที่ไม่ได้ย้ายก็ต้องเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ทำให้ทุกวันนี้พวกตนสวมเสื้อเกราะและหมวกเหล็กตลอดเวลา.