นายกฯ รับหาพยานหลักฐานเหตุการณ์เดือน เม.ย.53 ได้ยาก

ซูริก 30 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีแจงสถานการณ์ในประเทศให้เอกอัครราชทูตไทยในยุโรปทราบ

พร้อมยอมรับการหาพยานหลักฐานในเหตุการณ์เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ทำได้ยาก แต่คณะกรรมการอิสระ ชุด “คณิต ณ นคร” ก็ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้มากแล้ว จะรายงานรัฐบาล ก.พ.นี้

“จิตตานันท์ นิกรยานนท์” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ซึ่งติดตามภารกิจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมประจำปี เวทีเศรษฐกิจโลก (World  Economic Forum : WEF) ครั้งที่ 41 ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ 28-31 มกราคม ว่า  เวลา 14.15 น. วันที่ 29 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับ นายเคลาส์ ชว็อบ (Klaus Schwab) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการบริหารดับเบิลยูอีเอฟ ซึ่งนายชว็อบได้แสดงความปลาบปลื้ม ในความโดดเด่นของเศรษฐกิจไทย และพร้อมริเริ่มโครงการความร่วมมือ ด้านการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจ เพื่อเป็นแม่แบบให้กับประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ จะประสานกับประเทศไทย ในการจัดเวทีเศรษฐกิจโลกในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ที่ประเทศไทย ในปีหน้าด้วย

สำหรับภารกิจวันสุดท้ายของนายกรัฐมนตรี เวลา 09.30 น. วันที่ 30 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น

นายกรัฐมนตรีได้ร่วมประชุมเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคยุโรป ณ โรงแรมที่พัก ณ นครซูริก เพื่อรับชี้แจงความคืบหน้าสถานการณ์ในประเทศไทย และความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนกับประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า เอกอัครราชทูตในยุโรปมีส่วนสำคัญในการเชิญชวนให้ เข้ามาลงทุนในประเทศไทย

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย ปัญหาสิทธิมนุษยชน และปัญหาพม่า

ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะต้องแก้ไขโดยใช้หลักมนุษยชน ไม่ใช่ผลักภาระ หรือโยนปัญหาให้กับประเทศอื่น พร้อมแจ้งให้เอกอัครราชทูตทราบ กรณีที่รัฐบาลมีมติยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ใน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เป็นพื้นที่นำร่อง และอาจจะมีการยกเลิกในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส และอ.กาบัง จ.ยะลา เพิ่มเติม โดยมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้ามาดูแลเน้นเจ้าหน้าที่ทำงานช่วยเหลือประชาชน และแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่

โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตได้สอบถามเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเหตุการณ์เดือนเมษายน- พฤษภาคม 2553

ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะไม่เข้าไปก้าวก่าย ให้อิสระในการตรวจสอบกับคณะกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ  (คอป.) ที่มี นายคณิต ณ นคร เป็นประธาน แต่ก็ยอมรับว่า การหาพยานหลักฐาน เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่ขณะนี้คณะกรรมการก็ทำได้มากแล้ว และจะรายงานให้รัฐบาลทราบ ในเดือนกุมภาพันธ์นี้

นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงการชุมนุมในประเทศไทยว่า ขณะนี้ เสื้อเหลืองและเสื้อแดง มีโอกาสที่จะจับมือกัน และว่า “เสื้อเหลือที่เป็นเพื่อนกับรัฐมนตรี เจรจายากกว่าเสื้อแดง” อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีหน้าที่แก้ไขปัญหา และไม่ต้องการใช้ความรุนแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมร่วมกับเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาคยุโรปแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางจากโรงแรมที่พัก ไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินครซูริก เพื่อเดินทางโดยเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เที่ยวบินที่ TG 971 กลับประเทศไทย ซึ่งมีกำหนดการถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 06.00 น. วันที่ 31 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย .- สำนักข่าวไทย