นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ประสงค์จะเจรจากับนายกรัฐมนตรี
ภายหลังเดินทางกลับจากการไปประชุมที่กรุงดาวอส ว่า ก็ต้องใช้ความพยายาม รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องอดทน ใช้ความมานะพยายาม นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ที่จะพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อให้เหตุการณ์คลี่คลายลง การที่เขาปฏิเสธนั้น เพราะเขาไม่ต้องการญาติดีกับรัฐบาลนั้น ตนมองว่าถึงไม่ญาติดีกัน ก็ไม่เป็นปัญหา แต่ก็ต้องยอมฟังเหตุฟังผลกันบ้าง เราฟังท่าน ท่านก็ต้องฟังเรา ส่วนการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการเจรจาในเรื่องการเปิดถนนเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ผบช.น.ได้รายงานว่าพยายามที่จะเจรจากันตลอดเวลาว่า คนตอนกลางวัน 200-300 คน แต่มีการปิดถนนตลอดทั้งสายทำให้คนกทม.เดือดร้อน และเกิดความไม่พอใจ ส่วนกลางคืนมีมากสุดก็ 2,000 กว่า คน ฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องปิดถนนเลย แต่ไปเจรจาก็ยังไม่ได้ผล ตรงนี้ได้กำชับว่าอย่าละความพยายาม ต้องพุดคุยกันต่อไป
นายสุเทพ กล่าวีอกว่า หากยังมีการชุมนุมที่ยืดเยื้ออยู่แบบนั้นก็จะใช้เวลาดูต่อไปอีก 2-3 วัน ว่าจะจัดการอย่างไร
และคิดว่าเมื่อมีปริมาณคนที่ไม่มาก ก็น่าที่จะอยู่บนถนนเส้นเดียวไม่ใช่หลายเส้นทาง หรือไปอยู่บนซีกหนึ่งของถนน เพื่อให้การจราจรสามารถเดินทางได้ และหากประชาชนเดือดร้อนก็คงจะต้องมีการฟ้องร้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และทางรัฐบาล ขณะนี้รอให้เวลาเจ้าหน้าที่ไปเจรจาอีกครั้งก่อน แต่คงยังไม่เด็ดขาดต้องค่อยๆเจรจาเมื่อถามย้ำว่าถนนราชดำเนินกลาง เป็นเส้นทางเสด็จ จะให้มีการทำอย่างนี้ได้หรือ นายสุเทพ กล่าวและว่า “ปิดถนน การปิดถนนไม่สมควรอย่างยิ่ง”