ใครกันแน่ที่พร้อมกับ "อำนาจทางการเมือง"
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
บทความพิเศษจาก
(มติชนสุดสัปดาห์)
แม้สถานการณ์การเมืองไทยในวันนี้พรรคไทยรักไทยจะตกอยู่ในภาวะหนีญ่ายพ่ายจะแจ ถ้าเป็น "นักมวย" ก็ต้องบอกว่าไม่ต้องคิดว่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างไร
วันนี้แค่คิดว่าจะเอาตัวรอดให้พ้นจากการถูกน็อคในยกนี้ได้ก็เก่งแล้ว
แต่ถึงแม้ "ไทยรักไทย" จะอยู่ในภาวะย่ำแย่อย่างหนัก กลับเป็นเรื่องที่น่าแปลกอย่างยิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถช่วงชิงความโดดเด่นจากสถานการณ์นี้ได้เลย
ก่อนหน้านี้การเมืองไทยแบ่งเป็น 2 ขั้วชัดเจน คือ พรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อขั้วหนึ่งย่ำแย่ อีกขั้วหนึ่งน่าจะโดดเด่น
แต่ดูเหมือนว่าความเป็นจริงในวันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น
"บรรหาร ศิลปอาชา" และพรรคชาติไทยกลับจะดูโดดเด่นกว่า แม้จะเป็นความโดดเด่นในเส้นทางสายเดิมแบบนักการเมือง " มืออาชีพ" หรือ "รุ่นเก๋า" ทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่โดดเด่นอย่างที่ใครคาดคิด
อาจเป็นเพราะมี "ชนัก" เรื่องคดียุบพรรคติดหลังอยู่ ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่กล้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์กลุ่ม "อำนาจใหม่" อย่างเต็มปากเต็มคำ
ส่วนใหญ่มักจะเป็นการ "เสี้ยม" ให้ "อำนาจใหม่" เล่นงาน "ทักษิณ" และพรรคไทยรักไทยมากกว่า
ไม่ได้แสดง "จุดยืน" การต่อต้านเผด็จการทหารเหมือนในอดีต
ที่สำคัญ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ควรจะโดดเด่น กลับไม่โดดเด่นอย่างที่คิด "จุดยืน" ต้านการรัฐประหารก็ไม่เด่นเท่า "จาตุรนต์ ฉายแสง"
ความเก๋าก็สู้ "บรรหาร" ไม่ได้
หรือเรื่องฝีมือการบริหาร "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" ที่งำประกายอยู่ในถ้ำก็โดดเด่นกว่า
ภาวการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดบรรยากาศความอึดอัดในพรรคประชาธิปัตย์ "รอยแยก" ที่เคยมีอยู่ก็เริ่มปริร้าวขึ้นอีกครั้ง