ทูตกัมพูชาเข้าเยี่ยมนักโทษ เผยบางรายขอย้ายไปขังที่เขมรแทน

นางยู ออย เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้ติดตาม นายเป็ง เซฮา เลขานุการเอกและกงสุล และนายเมา พิรุณ เจ้าหน้าที่และล่าม เข้าเยี่ยมผู้ต้องขังชาวกัมพูชาที่ถูกคุมขังในเรือนจำบุรีรัมย์ เมื่อสายวันที่ 24 มกราคม

เพื่อตรวจเยี่ยมสภาพความเป็นอยู่ รับฟังปัญหาและข้อเรียกร้องต่างๆ ของผู้ต้องขังเหล่านี้ เพื่อนำเสนอและหามาตรการการช่วยเหลือต่อไป โดยมีนายสุรสิทธิ์ จิตรชอบใจ ผู้บัญชาการเรือนจำบุรีรัมย์ ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปว่า เรือนจำบุรีรัมย์มีผู้ต้องขังชาวกัมพูชาเป็นชายทั้งหมด 45 ราย เป็นผู้ต้องขังที่โอนย้ายมาจากเรือนจำสมุทรปราการ และเรือนจำสระบุรี โดยทั้งหมดต้องโทษคดียาเสพติดและถูกตัดสินโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี 4 เดือน ถึง 21 ปี

นางยู ออย ใช้เวลาในการพูดคุยและสอบถามสภาพความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังชาวกัมพูชาร่วม 1 ชั่วโมง

นอกจากนี้ยังได้ให้ผู้ต้องขังชาวกัมพูชาทุกคนกรอกเอกสารประวัติ รวมทั้งข้อเรียกร้องในการยื่นความจำนงกรณีต้องการโอนย้ายกลับไปคุมขังยังเรือนจำในประเทศกัมพูชาอีกด้วย โดยก่อนที่จะเดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำบุรีรัมย์ นางยู ออย และคณะยังได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังชาวกัมพูชาที่ถูกคุมขังในเรือนจำอำเภอนางรอง ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้น 27 ราย เป็นชาย 24 และหญิง 3 รายอีกด้วย

นายสุรสิทธิ์กล่าวว่า นางยู ออย เดินทางเข้าเยี่ยมนักโทษชาวกัมพูชาในเรือนจำบุรีรัมย์ เพื่อสอบถามความเป็นอยู่และข้อเรียกร้องต่างๆ

ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยต่อชาวกัมพูชา โดยเน้นย้ำให้นักโทษทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางเรือนจำ ซึ่งยังได้ให้นักโทษทั้งหมดกรอกประวัติและยื่นข้อเรียกร้องต่างๆ รวมทั้งกรณีที่นักโทษรายใดต้องการจะขอโอนย้ายไปคุมขังในเรือนจำประเทศกัมพูชาก็ให้ยื่นความประสงค์ไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม นักโทษส่วนใหญ่ยังคงประสงค์ที่จะถูกคุมขังในเรือนจำบุรีรัมย์ โดยมีจำนวนน้อยที่จะขอโอนย้าย