นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ขู่ยุบสภา เพื่อต่อรองพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า
ตนยังไม่เห็นตัวตนของคนที่ออกมาขู่เรื่องนี้ คนที่จะพูดจาที่จะทำให้เกิดความเสียหายต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามต้องระวังไม่ทำให้สถานการณ์การเมืองตึงเครียด และประชาชนไม่สบายใจ นายกรัฐมนตรีและตนในฐานะที่มีหน้าที่ดูแลรัฐบาล ยืนยันว่าไม่เคยข่มขู่ใครและจะไม่ทำเด็ดขาด เพราะเราเข้าใจดีว่าในสถานการณ์อย่างนี้ความสามัคคีและความเข้าใจระหว่างกันมีความสำคัญที่สุด โดยเฉพาะภายในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน มีอะไรต้องพูดจากัน หารือกัน ทำอย่างนี้มาโดยตลอด
“การแก้ไขรัฐธรรมนุญนั้น ส.ส.และส.ว.ต่างก็มีความคิดที่หลากหลาย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะไม่มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จที่ทุกคนจะต้องเห็นพ้องต้องกันทุกอย่าง และในระบบรัฐสภา เราถือเสียงข้างมากเป็นหลัก เมื่อเสียงข้างมากเป็นอย่างไรเราก็ดำเนินการอย่างนั้น” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดปฏิทินตารางการเมืองโดยระบุจะยุบสภาในเดือนพ.ค. เพื่อเลือกตั้งในเดือนก.ค.และจะจัดตั้งรัฐบาลในเดือนส.ค. นายสุเทพ กล่าวว่า “อย่าไปเชื่อข่าวลือข่าวลวงใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่นายกรัฐมนตรีประกาศชัดเจนคือจะมีการเลือกตั้งในปี 2554 แน่นอน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่านายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายสุเทพไปประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้ยอมรับสูตร 375+/125 ไม่เช่นนั้นการแก้รัฐธรรมนุญก็ถูกคว่ำไป และกลับไปใช้สูตรเขตเลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญปี 2550 นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปตีความหรือคิดกันไปเองแล้วมาบอกว่านายกฯหรือตนคิดอย่างนั้น ไว้ตนคิดอย่างไรแล้วจะเรียนให้สื่อมวลชนทราบ การประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายกฯไม่จำเป็นต้องสั่งเป็นรายครั้งเพราะถือเป็นหน้าที่ ที่ตนจะต้องประสานและพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งตนจะพูดคุยประสานงานตามความสมควร และไม่สามารถไปปฏิบัติงานตามกระแสได้ทุกวัน ซึ่งจนถึงตอนนี้ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลตัวจริงแต่อย่างใด แต่จากนี้ต่อไปตนเห็นว่าเป็นเวลาที่ต้องไปพูดคุยกันแล้ว และจะมีการพูดคุยกันทุกวิถีทางทั้งคุยกันในรอบนอกรอบ ดื่มกาแฟกันบ้าง
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราต้องยอมรับว่าความคิดเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญหลากหลายมาก นักการเมืองแต่ละพรรคแม้แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปกล่าวหากันว่า ใครทำเพื่อตัวเองหรือใครทำเพื่อประเทศ เพราะมันมีหลายทฤษฎี หลายความคิด แต่เราเป็นนักประชาธิปไตยถูกสอนให้ใช้สมอง ใช้ความคิดของตัวเอง และเคารพความคิดของคนอื่นด้วย