สุวัจน์ย้ำสูตรใดก็ได้เชื่อไม่ขัดแย้งจนยุบสภา

“สุวัจน์” ชี้ไม่ว่าสูตรใดก็ขอให้คำนึงถึงประเทศชาติ เชื่อไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้งจนยุบสภา

วันนี้  21 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ไม่น่าจะนำมาซึ่งความขัดแย้งภายในพรรคร่วมและความขัดแย้งในสังคม แต่การแก้ไขจะใช้สูตรใดก็ขอให้คำนึงถึงประเทศชาติ ตอนนี้เป็นเพียงความคิดในเรื่องของตัวเลขที่ไม่ตรงกันเท่านั้น และคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ที่นำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะตัวเลขในแต่ละสูตรก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมากนัก และก็ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขใดสูตรไหน เราได้มีการใช้มาแล้วทั้งนั้น ทั้งนี้หากเห็นว่าสูตรใดเป็นประโยชน์ต่อส่วนร่วมก็ควรนำมาใช้ ส่วนการแพ้ชนะทางการเมืองถือเป็นประเด็นรอง
 
นายสุวัจน์ กล่า่วอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องอยู่บนพื้นฐานที่ ประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ และเชื่อว่าไม่น่าเป็นปัญหาจนนำไปสู่การยุบสภา ประกอบกับตอนนี้บ้านเมืองมีความขัดแย้งอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรนำประเด็นนี้มาทำให้ประเทศแย่ลงไปอีก ประกอบกับถ้าเราได้กติกาหรือรัฐธรรมนูญที่มีความขัดแย้งถึงแม้จะมีการเลือกตั้งเรื่องทุกอย่างก็คงจะไม่จบ
 
ผู้สื่อข่าวถารมว่ากรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นัดพรรคร่วมหารือเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ทางพรรคร่วมชาติพัฒนามีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร นายสุวัจน์ กล่าวว่า ถ้ามองว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องนี้ก็จะได้ข้อยุติยาก เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นรอง เราควรคิดถึงประเทศชาติเป็นหลัก และขณะนี้ก็มีรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่ถ้ามีการแก้ไขก็จะถูกนำมาใช้หลังการเลือกตั้ง และการที่มีหลายฝ่ายออกมาเคลื่อนไหวในตอนนี้ ก็อาจทำให้บรรยากาศการเมืองไม่ดี แต่หลังการเลือกตั้งเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจ ทุกฝ่ายจะให้การยอมรับ แต่ตอนนี้จะต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนยอมรับ
 
“ตอนนี้บรรยากาศการเมืองถือว่า ความรุนแรงทางการเมืองเร่ิงคลี่คลายลงแล้ว จึงอยากให้ทุกฝ่ายรวมมือในเรื่องการแแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง และขอให้ช่วยกันเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้มีท่าทีชัดเจนส่งสัญญาณในเรื่องการยุบสภา ซึ่งหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็ืถือว่าเป็นความรับผิดอบร่วมกัน เพราะเป็นเรื่องของสภา ไม่น่าจะใช่ความผิดของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ส่วนภาพการรวมพรรคจะชัดเจนหลังจากยุบสภาแล้ว แต่ตอนนี้ผมเชื่อว่า ทุกคนต่างเคาท์ดาวน์ นับถอวยหลังรอการเลือกตั้งกันหมดแล้ว นักการเมืองก็รอและเตรียความพร้อมที่จะให้มีการเลือกตั้ง ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศไว้” นายสุวัจน์ กล่าว
 
นายสุวัจน์ กล่าวยอมรับอีกด้วยว่า หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเชื่อว่าจะมีการแข่งขันสูง แต่การแข่งขันที่สูงจะเป็นผลดีกับประชาชน อย่างไรก็ตามหากมีการเลือกตั้ง ก็ควรจะมีการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความยุติธรรม ซึ่งส่วนตัวยังพอใจการทำงานของกกต.ในฐานะผู้คุมกติกาการเลือกตั้ง โดยดูจากการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาแต่มันใจว่าการเลือกตั้งในอนาคตจะนำไปสู่สิ่งที่ดีของประเทศ คลายอุณหภูมิความรุนแรงทางการเมืองให้เย็นลง เพราะทุกคนอยากให้มีการเลือกตั้ง.