ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า จากการหารือแกนนำรัฐบาลในซีกของพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีข้อสรุปเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นำไปเจรจากับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออีก 5 พรรค
โดยนายกรัฐมนตรีและแกนนำรัฐบาลจากพรรคประชาธิปัตย์ จะยืนยันสูตร 375+125 เพียงสูตรเดียวเท่านั้น จะไม่มีการปรับเปลี่ยนไปในสูตร 400 + 100 หรือ 400 + 125 อย่างเด็ดขาด ทั้งนี้จากการหารือของแกนนำพรรคประชาธิปัตย์เห็นว่า นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพควรจะต้องไปทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ให้การสนับสนุนสูตร 375+125 ไปในแนวทางเดียวกัน เพราะหากต่างคนต่างสนับสนุนสูตรของตัวเอง ก็จะทำให้ร่างที่เสนอทั้ง 2 สูตรไม่ว่าจะเป็น 400 +100 หรือ 375+125 มีเสียงสนับสนุนไม่เกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา คือ 316 เสียง ซึ่งหากเสียงสนับสนุนไม่พอทั้ง 2 สูตรจะมีผลทำให้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ต้องตกไปและจะต้องกลับไปใช้สูตร 400 + 80 แบบพวงใหญ่ ซึ่งหากกลับไปสู่สูตรเดิม พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยก็จะได้เปรียบด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายสุเทพ ได้แจ้งต่อนายอภิสิทธิ์ ถึงการนัดหมายแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลตัวจริง เพื่อหารือในกรณีการสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งแกนนำตัวจริงทุกคนได้ตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลมีท่าทีที่จะกลับมาหนุนสูตร 375+125 อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลก็มีเงื่อนไขมาด้วยว่า เมื่อมีการสงวนคำแปรญัตติก็จะขออภิปรายตามคำแปรญัตติ ที่ได้มีการเสนอสูตร 400+100 ในชั้นกรรมาธิการฯส่วนในวาระ 2-3 อาจจะมีการถอนคำแปรญัตติในสูตรอื่น เพื่อมาโหวตสนับสนุนร่างที่เป็นสูตร 375+125 เนื่องจากเกรงว่าร่างแก้ไขเพิ่มจะตกไป จนมีผลทำให้ต้องกลับไปใช้ร่างเดิมในสูตร 400+80
ด้านนายวิรัตน์ กัลยาศิริ รองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะให้มีการถ่ายทอดสด การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ระหว่างวันที่ 25-26 ม.ค.นี้ ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา จะต้องทำหนังสือประสานมายังวิปรัฐบาล เพื่อส่งเรื่องต่อไปยังนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสื่อ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ดังนั้นประธานรัฐสภาจะต้องเสนอมาตามขั้นตอน
รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า วิปรัฐบาลเห็นว่า น่าจะให้มีการถ่ายทอดสด การประชุมสภาฯในวันดังกล่าวเนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นวาระที่ประชาชนให้ความสนใจ มากกว่าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี ซึ่งการพิจารณางบประมาณทางสภาฯ ยังจัดให้มีการถ่ายทอดสด ซึ่งการพิจารณารัฐธรรมนูญก็ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ดังนั้นประชาชนควรจะได้ยินกับหูตัวเองดีกว่าไปได้ยินจากคนอื่น ทั้งนี้อยากให้ประชาชนได้เรียนรู้การเมืองได้ลึกซึ้งเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้