มาร์คกลับลำ-เคอร์ฟิวเด็ก

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2554 ต่อกรณีเคอร์ฟิวห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ออกจากเคหสถาน ว่า นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะเชิญทุกฝ่ายทำความเข้าใจ เพราะว่าจริงแล้วเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็ก

"มันไม่มีกฎหมายที่จะไปบอกว่าห้ามปรามให้คนออกจากบ้านหรืออะไร หรือบางกระทรวงอาจจะมีมาตรการของเขาเช่นกรณีของกระทรวงวัฒนธรรมที่เขาดูแลร้านเกม เขาก็อาจจะกำหนดได้ว่าควรจะเปิดให้บริการคนอายุต่ำกว่า 18 ปีได้กี่โมงถึงกี่โมง" นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ตามกฎหมายคุ้มครองเด็กมีการกำหนดอยู่แล้วว่ากรณีที่เด็กมีความเสี่ยงจะไปกระทำความผิด
 
ก็มีมาตรการที่ไม่ใช่เรื่องของตำรวจที่ไปจับกุมหรือห้ามปรามแต่จะเป็นมาตรการในการคุ้มครองซึ่งจะต้องประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามทางตำรวจยืนยันมากับตนว่าเขาไม่ได้คิดที่จะห้ามออกนอกบ้าน แต่ตนบอกไปว่าควรจะประสานกันเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายคุ้มครองเด็กเท่านั้นเอง และไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องของเงื่อนเวลา เพียงแต่เด็กที่มีแนวโน้มมีความเสี่ยงต่อการกระทำความผิดหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายไม่เหมาะสม กฎหมายก็กำหนดกระบวนการที่จะให้เราเข้าไปดูแลเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กเอง ส่วนการเอาผิดกับสถานประกอบการนั้นถ้าพวกไหนผิดกฎหมายก็ต้องเข้มงวดกวดขันอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าในต่างจังหวัดที่ไม่มีร้านเกมเด็กๆก็จะรวมกลุ่มมั่วสุมดื่มสุรากันจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูแลทั้งระบบ เพราะถ้าไม่ให้เขามั่วสุมในร้านเกมเขาก็จะมั่วสุมนอกร้านแทนถ้าเขาคิดจะมั่วสุม แต่ทั้งนี้ถ้าอายุต่ำกว่า 18 ปีถ้าทำกิจกรรมที่ทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

นายวันชัย สอนศิริ เลขาธิการสภาทนายความ กล่าวว่า ที่ห้ามเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่มจะช่วยลดอาชญากรรมนั้น เป็นคนละเรื่องกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรม
 
เพราะอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ใครก็ได้ที่คิดทุจริตประทุษร้ายต่อคนอื่นและพร้อมที่จะก่ออาชญากรรมนั้น แต่พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีวัตถุประสงค์ต้องการไม่ให้เด็กเข้าไปในวังวน หรือเข้าไปเสี่ยงกับอาชญากรรม และอบายมุขต่างๆ ที่จะทำให้เด็กเข้าไปลุ่มหลงกับความประพฤติผิดประพฤติมิชอบ การก่ออาชญากรรมไม่เกี่ยวข้องกับการที่เด็กจะออกหรือไม่ออกจากบ้านหลัง4ทุ่ม หากตำรวจคิดจะลดอาชญากรรม ต้องไปเข้มกับสถานบันเทิง แหล่งอบายมุข และซ่องโจรทั้งหลายให้มากขึ้นจะดีกว่า ตนฟันธงว่า การห้ามเด็กออกจากบ้านเป็นวิธีการที่ใช้ไม่ได้ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

ขณะที่ว่าที่พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ กล่าวว่า อาจมีปัญหาตรงที่เป็นมาตรการที่บังคับใช้เฉพาะในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือกรุงเทพฯ อาจถูกมองในเรื่องความไม่เสมอภาคตามรัฐธรรมนูญ เพราะเด็กจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร หรืออื่นๆ ยังเที่ยวกันได้ ตนอยากให้ตำรวจออกมาอธิบายให้เห็นความชัดเจนในเจตนารมณ์ของการใช้กฎหมายให้มากกว่านี้

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์