วันที่ 19 ม.ค. ที่อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดยนางธิดา โตจิราการ รักษาการประธานนปช.
นายสมหวัง อัสราษี, นาย วรชัย เหมะ รักษาการรองประธานนปช., นายประแสง มงคลศิริ รักษาการเลขาธิการนปช., นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ รักษาการโฆษกนปช., และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. และส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงประจำสัปดาห์
นางธิดา กล่าวว่า การชุมนุมวันที่ 23 ม.ค.ที่จะถึงนี้สำคัญมาก เพราะเราจะมาปรากฏตัวกันให้มากกว่าวันที่ 9 ม.ค.
คาดว่าจะต้องมีผู้มาร่วมนับแสนคน โดยในวันที่ 20 ม.ค.จะนัดหมายหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการราชประสงค์อีกครั้ง ที่บช.น. เพื่อยืนยันจะช่วยดูแลผลกระทบให้ตามอัตภาพ แต่ถ้าคนมามากก็คงช่วยไม่ได้ ส่วนการเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมนั้น ล่าสุด นปช.แต่งตั้งสำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ เป็นทนายความ โดยจะยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ม.ค. และจะแถลงข่าวร่วมระหว่างประเทศ ด้วยระบบวิดีโอลิงก์ นอก จากนี้ ทราบว่าครอบครัวนายฟาบิโอ โพเลนกี ช่างภาพชาวอิตาลีที่ถูกยิงเสียชีวิตที่ราชประสงค์ ก็จะยื่นฟ้องรัฐบาลไทยที่ศาลประเทศอิตาลี ทั้งทางแพ่งและอาญา ส่วนครอบครัวของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นนั้น กำลังติดต่อญาติ เพื่อชวนให้ร่วมฟ้องแพ่งและอาญา ต่อศาลประเทศญี่ปุ่นเช่นเดียวกัน
รักษาการประธานนปช. กล่าวต่อว่า สำหรับการแต่งตั้งแกนนำระดับต่างๆ ในต่างจังหวัด จะเลือกตั้งแกนนำให้เสร็จสิ้นภายในเดือนก.พ.
พร้อมทำงานในเดือนมี.ค. เพื่อต่อสู้ยืดเยื้อกับอำนาจรัฐ ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงบางคนไปขึ้นเวทีของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น ยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่มีวัตถุประสงค์จะเป็นศัตรูกับใคร แต่คนเสื้อแดงมีจุดยืน ดังนั้น เป้าหมายในการต่อสู้ของคนเสื้อแดง คือต่อต้านรัฐประหาร แต่อีกข้างหนึ่งสนับสนุนรัฐประหาร มันคนละอย่างกัน การจะจับมือกันก็คงเป็นไปไม่ได้ ลักษณะจารีตนิยมคลั่งชาติไม่ใช่แนวคิดของนปช. ของเราคือแนวคิดเสรีนิยมที่ต้องการให้ประเทศเจริญ คนละมุมกัน ฉะนั้น คนเสื้อแดงจะรักหรือร่วมมือกับใคร ก็จะต้องพิจารณาให้ดี
ฟ้อง31มค. ร้องศาลโลกคดี91ศพ
ส่วนนายวรวุฒิ กล่าวว่า นปช.แสดงจุดยืนกับคนที่ชุมนุมบริเวณทำเนียบรัฐบาล ว่าหากจะไปจับมือด้วยนั้น เป็นเรื่องไม่เหมาะสม
เพราะคนกลุ่มดังกล่าวเป็นพวกที่เอาดอกไม้ไปให้วันที่ทหารปฏิวัติ และอีกอย่างหนึ่งคือการที่พวกนี้ไปอยู่ทำเนียบฯ นั้น เพราะนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.ประชาธิปัตย์ และพวกที่ไปติดคุกอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เราไม่รู้ว่าเขาวางแผนทำอะไรกันไว้ และหลังจากคนเหล่านี้ไปติดคุก ก็มี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ พยายามให้ทหารไปรบกับกัมพูชา เป็นการชักศึกเข้าบ้าน ให้คนเสื้อแดงพิจารณาว่าสิ่งไหนทำเพื่อชาติ และสิ่งไหนที่จะทำลายชาติ
ขณะที่ นายพิธาน ทรงกัมพล หรือแป๊ะ บางสนาน ศิลปินเสื้อแดง
หนึ่งในผู้ที่เคยร่วมกิจ กรรมกับกลุ่มเส้นทางสีแดง ที่ไปขึ้นเวทีของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ร่วมกล่าวว่า ในฐานะกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตย ไม่เคยมีแนวคิดที่แม้แต่จะผ่านเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ หน้าทำเนียบฯ ส่วนกลุ่มเส้นทางสีแดงนั้น ยอมรับว่าเคยทำกิจกรรมร่วมกัน แต่หลังจากจบกิจกรรมที่ภาคอีสานก็แยกกัน คือกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิปไตยที่มีตนร่วมด้วย กับกลุ่มเส้นทางสีแดงที่ไปขึ้นเวที ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกัน และยืนยันว่า แป๊ะ บางสนาน และกลุ่มสองขาเพื่อประชาธิป ไตยไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับกลุ่มเส้นทางสีแดง
ด้านนายจตุพร กล่าวว่า เตรียมไปศาลในวันที่ 20 ม.ค. หลังจากนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
กล่าวหาว่ากระทำผิดคำสั่งศาล กรณีรับโทรศัพท์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่วนการชุมนุมใหญ่ในวันอาทิตย์ที่ 23 ม.ค.นั้น ในวันที่ 20 ม.ค. เวลา 13.30 น. จะนัดคุยกับกลุ่มผู้ประ กอบการราชประสงค์ และตำรวจอีกครั้ง โดยจะเจรจาด้วยไมตรีมิตร จะพูดคุยกันเรื่องผลกระทบของรายได้ ที่เทียบไม่ได้กับชีวิตของคนตายที่ราชประสงค์ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประกอบการไม่ใช่ศัตรู แต่ศัตรูของนปช.คือรัฐบาล
"ยันยันว่าถนนราชประสงค์เป็นของประชา ชน ไม่ใช่ของผู้ประกอบการ พื้นที่แถบนั้นก็เป็นพื้นที่เช่า เจ้าของเดิมคือพรรคพวกเรา คือนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ยังมีการพูดคุยเรื่องสัญญาเช่ากันอยู่ แต่ในการประชุมก็ยืนยันจะให้ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการชุมนุม แต่ผู้ประกอบการต้องไม่ค้ากำไรเกินควรบนเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชนที่ไปตายที่นั่น" นาย จตุพร กล่าว
แกนนำนปช. กล่าวต่อถึงกรณีจับกุมนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ แกนนำเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติว่า
เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลเองก็เอาคดีก่อการร้าย มาเป็นเครื่องมือจัดการพวกเดียวกันเอง เพราะคดีนี้นายไชยวัฒน์ถูกหมายจับมาหลายวัน แต่รัฐบาลเลือกจับ โดยเลือกจับในช่วงที่นายไชยวัฒน์ไปถวายฎีกาเสร็จ ดังนั้น ถ้าใช้กติกาอันนี้ว่าถ้าออกหมายจับแล้วต้องจับกุม ต้องถามว่า นายการุณ ใสงาม ออกจากประเทศไทยไปกัมพูชาได้อย่างไร เพราะนายการุณก็ถูกออกหมายจับคดีการก่อการร้ายเหมือนกัน
แกนนำนปช.กล่าวอีกว่า รวมไปถึง นายวีระ สมความคิด ถ้าถูกปล่อยตัวจากกัมพูชา ตำรวจก็ต้องไปรับตัวมา
เนื่องจากถูกข้อหาก่อการร้ายยึดสนามบินเช่นกัน เวลานี้คนเสื้อแดงต้องนิ่งที่สุดไม่ซ้ำเติมกลุ่มพันธมิตรฯ ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าระหว่างพันธมิตรฯ รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ ได้พบสัจธรรมแล้วว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร คนเสื้อแดงต้องนิ่ง ไม่ต้องทำอะไร และไม่ต้องปั่นจักรยานไปหาเขาด้วย หากนายไชยวัฒน์ และนายสมบูรณ์ ถูกส่งไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อไหร่ คนเสื้อแดงอย่าไปคิดว่าพวกนี้นัดกันไว้กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
"อีกไม่กี่วันต่อจากนี้จะมีความจริงปรากฏอีกมากมาย นายไชยวัฒน์ ครั้งล่าสุดก็ลงสมัครส.ส. บุรีรัมย์ ในนามพรรคประชาธิปัตย์ และความจริงกำลังปรากฏ กรรมมันตามทันเร็วจริงๆ แต่ยังมีท่วงทำนองที่ว่า ทั้ง 2 คนถูกจับตำรวจประกาศเลยว่าจะไม่คัดค้านการประกันตัว โดน 9 ข้อหา โทษประหารชีวิตเท่ากัน แต่ของนปช.ถูกคัดค้านการประกันตัวโดยดีเอสไอ กระบวนการของรัฐมีปัญหาจริงๆ นี่ผมพูดถึงเรื่องคดีพันธมิตรฯ นะ พูดถึงเรื่องคดีตัวเองไม่ได้ เขาให้พูดเรื่องเพื่อนได้ แต่ห้ามพูดเรื่องตัวเอง" นายจตุพร กล่าว