“มาร์ค”ไม่โต้“ฮุนเซน”โยน“บัวแก้ว”แจง

“มาร์ค” ไม่โต้ “ฮุนเซน” โยนให้ “บัวแก้ว” แจง 7 คนไทย ยันรัฐฯ มีหน้าที่ดูแลคนไทยทั้งชาติ

เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 11 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุม ครม. ถึงการดำเนินการในช่วยเหลือคนไทย 7 คน ว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานให้ที่ประชุม ครม.ทราบถึงการทำงานทั้งในเรื่องของคดีและเรื่องของการช่วยดูแล อย่างเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ญาติของคนไทยทั้ง 7 คนได้เข้าไปเยี่ยม ทั้งนี้การให้ข่าวต่าง ๆ จากนี้ไป ตนได้ขอให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ที่ให้ข่าว 

เมื่อถามว่า ล่าสุดมีการแจ้งข้อหาเพิ่มให้กับนายวีระ สมความคิดและนางราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในช่วงที่มีการประชุม ครม.ยังไม่มีเรื่องนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงผลการหารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมและนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ เพื่อกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือ นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า จากนี้ไปกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ชี้แจง

เมื่อถามถึงการแสดงท่าทีที่แข็งกร้าวของสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า "กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้ชี้แจงและให้ข่าวทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้คุยกันเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด"

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาในวันนี้อย่างไร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมด รัฐบาลอยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลือคนไทย 7 คน เราทำภายใต้นโยบายของรัฐบาลโดยมีหน้าที่ 3 อย่าง

คือ 1.การดูแลประชาชนคนไทยทุกคน เมื่อมีคนของเรา 7 คน ถูกจับกุมตัวไป ก็ต้องดูแลให้ดีที่สุด

2.รักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรักษาความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อจะให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศหรือกับประเทศใดก็ตามสามารถที่จะได้ประโยชน์และอยู่ร่วมกันได้อย่างดี

และ 3. เรามีหน้าที่ที่จะรักษาอธิปไตยและสิทธิของประเทศและประชาชนของเรา

ซึ่งทั้ง 3 ส่วนถือเป็นเป้าหมาย ตนไม่อยากพูดอะไรเพิ่มเติม เพราะสถานการณ์ขณะนี้ในการรายงานคำพูดต่าง ๆ ออกไป ที่ผ่านมาหลายครั้งปรากฎว่าเมื่อมีการถ่ายทอดไปแล้วมีการไปเข้าใจอีกอย่างก็จะกระทบกระเทือน ดังนั้น

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน จึงขอให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ให้ข้ออมูลกับประชาชนเพราะตนและนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มีการพูดคุยกันตลอด ส่วนของหน่วยงานอื่นถ้ามีอะไรก็พูดคุยกับทางกระทรวงการต่างประเทศ ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ระบุว่ามีสายโทรศัพท์จากเมืองไทยเข้ามาถึง 10 ครั้ง ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2553 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่ทราบครับ เป็นโทรศัพท์ของนายกฯ ฮุน เซน ผมจึงไม่ทราบ เพราะไม่ได้เห็น"
 
เมื่อถามว่า เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงอะไรหรือไม่ โดยเฉพาะเจตนาที่สมเด็จฯ ฮุน เซน ไม่ต้องการเจรจา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไปตอบไม่ได้ว่าใครโทรศัพท์ถึงใครบ้าง 

เมื่อถามย้ำว่า นายกรัฐมนตรีจะไม่ทราบได้อย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีเป็นคนบอกให้กระทรวงการต่างประเทศไปประสานเรื่องคนไทยทั้ง 7 คน เพื่อไม่ต้องให้ขึ้นสู่กระบวนการของศาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการมอบนโยบายและได้มอบไปพร้อมบอกกับสื่อมวลชน ส่วนการประสานรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้นตนไม่ทราบ

เมื่อถามว่า แสดงว่านายกรัฐมนตรีมอบเบอร์โทรศัพท์ให้นายกษิต เพื่อโทรศัพท์ไปหาสมเด็จฯ ฮุน เซน ใช่หรือไม่

นายอภิสิทธิ์ ได้แต่หัวเราะ แต่ไม่ยอมตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่า ตนติดตามนโยบาย แต่ไม่จำเป็นต้องถามว่าวิธีการทำงานในทุกขั้นตอนว่าเป็นอย่างไร  ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของนายกรัฐมนตรีในวันแรกประกาศให้ทางกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทยในทันที แต่ถึงวันนี้ไม่สามารถปฏิบัติได้และสมเด็จฯ ฮุน เซน ดูเหมือนไม่พอใจกับถ้อยคำดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ ยิ้มแต่ไม่ยอมตอบคำถาม 

เมื่อถามว่า มีความมั่นใจในการทำงานของกระทรวงการต่างประเทศแค่ไหน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนทำงานกันเต็มที่แล้ว.