เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส
บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนแผ่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ในบางพื้นที่ ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักทั้ง 3 สาย คือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนรา และแม่น้ำสายบุรี มีระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 2.20 เมตร ได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรของราษฎรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม และขยายวงกว้างกินพื้นที่ 11 อำเภอแล้ว ประกอบด้วย อ.สุไหงโก-ลก แว้ง ตากใบ เจาะไอร้อง จะแนะ ระแงะ สุไหงปาดี ยี่งอ บาเจาะ รือเสาะ และอำเภอเมือง โดยพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกมีระดับน้ำท่วมขังสูงสุด เฉลี่ย 60-130 ซ.ม. ส่วนพื้นที่อำเภออื่นๆ มีน้ำท่วมขังโดยรวมสูงเฉลี่ย 40-60 ซ.ม. ส่งผลทำให้ราษฎรที่อาศัยอยู่ใน 182 หมู่บ้าน 49 ตำบล 11 อำเภอ 10,014 ครัวเรือน รวม 38,446 คน ได้รับความเดือดร้อน พื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมขังจำนวนกว่า 9,000 ไร่ ถนนสายหลักและสายรองถูกน้ำท่วม 67 สาย
นอกจากนี้ผลพวงของฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ยังส่งผลทำให้โรงเรียนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา จ.นราธิวาส ทั้ง 3 เขต ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า 10 แห่ง
และคาดว่าจะต้องประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการฉุกเฉิน จนกว่าสภาวะน้ำท่วมจะคลี่คลาย ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอพยพราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.ระแงะ อ.แว้ง และ อ.สุไหงโก-ลก จำนวนกว่า 450 คน ไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยชั่วคราวในแต่ละพื้นที่อำเภอแล้ว
นายอดุลย์ พรมแสง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา นราธิวาส เขต 2 เปิดเผยว่า จากภาวะฝนหนักอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน
ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของ จ.นราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ทำให้สถานศึกษาหลายแห่งต้องประกาศงดการเรียนการสอนชั่วคราวตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้แม้ว่าสถานการณ์ล่าสุดแม้ฝนจะลดลง แต่หลายจุดยังมีระดับน้ำท่วมขัง ทำให้โรงเรียนบางส่วนอาจต้องงดทำการเรียนการสอนชั่วคราวในวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.นี้
อุทกภัยใต้ขยายวงกว้างนราฯจมน้ำ11อำเภอ
โดยเฉพาะโรงเรียนที่ถูกน้ำท่วมขังจำนวน 11 แห่ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบเขต 2 มี 5 อำเภอ
ประกอบด้วย อ.ตากใบ สุไหงปาดี สุคิริน แว้ง และสุไหงโก-ลก ที่ปิดการเรียนการสอนไปก่อนหน้านี้ คาดว่ายังไม่พร้อมทำการเปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.นี้ เนื่องจากต้องให้คณะครูเข้าทำการประเมินความเสียหายในส่วนของอุปกรณ์การเรียนการสอน พร้อมทั้งทำความสะอาด สำหรับโรงเรียนที่มีระดับน้ำท่วมขังสูง ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่บริเวณใกล้กับแม่น้ำสุไหงโก-ลก ต้องรอให้ระดับน้ำลดและคลี่คลายจากภาวะวิกฤตเสียก่อน จึงจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติได้ ซึ่งคาดว่าหากไม่มีฝนตกหนักซ้ำลงมาอีก สถานการณ์ระดับน้ำที่ท่วมขังสูงในโรงเรียนทั้ง 11 แห่งจะคลี่คลาย และเปิดการเรียนการสอนได้อีกครั้งภายในวันที่ 11 ม.ค.นี้
ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศ เรื่องคลื่นลมแรงในทะเลจีนใต้และอ่าวไทยตอนล่าง
โดยบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมทะเลจีนใต้และอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2-4 เมตร ดังนั้นจึงขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องชาวประมงให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเล ขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เพื่อความไม่ประมาท
นอกจากนี้ ผวจ.นราธิวาส เปิดเผยด้วยว่า ได้รับรายงานจากโครงการชลประทานนราธิวาสว่า จากที่ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำบางนราในช่วงวันที่ 2-4 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทำให้ระดับน้ำในคลองตันหยงมัสสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันนี้ ระดับน้ำในคลองดังกล่าวสูงขึ้นชั่วโมงละ 10-15 ซม. ปัจจุบันต่ำกว่าตลิ่ง 1.22 ม. จึงขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่บ้านตันหยงมัส บ้านไท และบ้านแกแม ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ และบ้านมะนังตายอ ต.มะนังตายอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน พี่น้องประชาชนสามารถประสานขอความช่วยเหลือมายัง ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จ.นราธิวาส ทางหมายเลขโทรศัพท์ 073-532210 และ 073-532134 โดยจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง