คนร้ายลอบบึ้มห้องสมุด โรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ จ.ขอนแก่น กลางดึก แรงระเบิดทำลายหน้าอาคารพังยับ เคราะห์ดีไร้คนเจ็บ-คนตาย
วันนี้ ( 9 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมใจ รักศิลป์ สวป.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดโรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ ตั้งอยู่บ้านหนองกุงขี้ควง หมู่ 5 ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จึงรายงานนายพยัต ชาญประเสริฐ รอง ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.นิคม อินทร์เฉิดฉาย ผบก.ภจว.ขอนแก่น รุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภาค 4
ที่เกิดเหตุเป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ตั้งอยู่บนเนื้อที่หลายไร่ มีรั้วรอบขอบชิด
ยกเว้นด้านหลังติดกับทุ่งนาซึ่งไม่มีรั้ว เจ้าหน้าที่พบจุดระเบิดคืออาคารห้องสมุด ซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียว ชื่อ "ห้องสมุดรักเมืองไทย 31 " โดยคนร้ายนำระเบิด น้ำหนักประมาณ 2 ปอนด์ มาวางไว้หน้าประตูทางเข้าห้องสมุด แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 3 ซม. กว้าง 5 ซม. และประตูกระจก หน้าต่างกระจก และข้าวของภายในห้องรับแขกด้านในพังเสียหาย โดยเฉพาะป้ายโลหะหน้าห้องสมุด ซึ่งมีข้อความ "เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ซึ่งเป็นคำกล่าวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และมีลายเซ็น พล.อ.เปรม กำกับไว้ โดยป้ายพังเสียหายตัวอักษรบางตัวหลุดออก เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและหาหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. นักการภารโรงที่นอนพักอยู่ในบริเวณโรงเรียน ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น จึงออกมาดู
และครูเวรกับแจ้งทหาร 5 นาย สังกัดกองพันทหารม้าที่ 14 (ค่ายเปรมติณสูลานนท์) จ.ขอนแก่น ซึ่งมาเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณประตูรั้วหน้าโรงเรียน และประสานไปยังนายสถิต น้อยเนารัง ผู้ใหญ่บ้านหนองกุงขี้ควง หมู่ 5 แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายน่ามีมากกว่า 1 คน แอบย่องเข้ามาทางทุ่งนาหลังโรงเรียน นำระเบิดแสวงเครื่องทีเอ็นที มาวางไว้หน้าห้องสมุด เป้าหมายแค่ต้องการสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วน โดยเฉพาะในวันเด็ก ไม่ได้ประสงค์จะเอาชีวิตใคร เพราะเลือกลงมือในช่วงกลางคืน จึงไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต อย่างไรก็ดี ประเด็นความขัดแย้งของโรงเรียน ตำรวจยังไม่ตัดทิ้ง ซึ่งรอง ผวจ.ขอนแก่น สั่งการให้เร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัด และตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2553 และวันที่ 13 ต.ค.2553
เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดหน้าประตูรั้วโรงเรียนแห่งนี้มาแล้ว จนถึงขณะนี้ยังจับกุมคนร้ายไม่ได้ เหตุการณ์ครั้งนั้นมีการมุ่งประเด็นไปที่สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง และมือที่สามสวมรอยป่วน ในที่สุดจึงมีการส่งทหารมาดูแลรักษาความปลอดภัยโรงเรียน แต่สุดท้ายถูกคนร้ายลูบคมแอบรอดหูรอดตาทหารย่องมาวางระเบิดป่วนอีกจนได้
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 (บช.ภ.4) พล.ต.ท.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ ผบช.ภ.4 ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วย พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.นิคม อินเฉิดฉาย ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.เป็นประธานผ่านการประชุมทางทีวีคอนเฟอร์เรนท์ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น จากนั้น พล.ต.ต.นิคม ได้ออกมาเปิดเผยว่าเหตุระเบิดห้องสมุดโรงเรียนเปรมติณสูลานนท์ ครั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายไม่ประสงค์ต่อทรัพย์ แต่น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความปั่นป่วนในบ้านเมือง ซึ่งอาจจะให้เข้ากับสถานการณ์การชุมนุมของคนกลุ่ม นปช.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ในกรุงเทพฯ หรือไม่ก็ยังไม่ทราบได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ นายทหารผู้ใกล้ชิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวว่า พล.อ.เปรม ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
และได้สอบถามว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ซึ่งหลังจากทราบรายละเอียดแล้ว ก็ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามปกติ ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเตรียมตั้งค่ายกองพลทหารม้าที่ 3 หรือ พล.ม.3 ที่มีการนำเรื่องเข้าสู่สภากลาโหมไปเมื่อเร็วๆ นี้ หรือไม่นั้น พล.ร.อ.พะจุณณ์ กล่าวว่า อย่าคิดไกลกันเกินไป ด้าน พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ได้รับรายงานเหตุระเบิดดังกล่าวแล้ว แต่ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ ขอให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการ เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับทหารโดยตรง